๑๙๑. |
อกกฺกสํ วิฺาปนึ |
คิรํ สจฺจํ อุทีรเย |
|
ยาย นาภิสเช กฺจิ |
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. |
|
ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใคร ๆ ขัดใจ ไม่
หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๗๐. |
|
|
|
๑๙๒. |
อกฺโกธโน อสนฺตาสี |
อวิกตฺถี อกุกฺกุจฺโจ |
|
มนฺตาภาณี อนุทฺธโต |
ส เว วาจายโต มุนิ. |
|
ผู้ใด ไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา
ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่า เป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๐.
ขุ. มหา. ๒๙/๒๕๗. |
|
|
|
๑๙๓. |
อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ |
ยตฺถ พาลา ปภาสเร; |
|
พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนติ |
ยตฺถ ธรีรา ปภาสเร. |
|
คนเขลา ย่อมกล่าวในเรื่องใด ไม่ถูกผูกก็ติดในเรื่องนั้น,
คนฉลาดย่อมกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั้น. |
|
( โพธิสตฺต ) |
ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๓๙. |
|
|
|
๑๙๔. |
ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ
น ภาสติ อลิกํ ภูริปฺโ
โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ
ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ.
|
|
ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่น
หรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน แม้ภายหลัง
เขาย่อมไปสู่สุคติ. |
|
( มโหสธโพธิสตฺต ) |
ขุ. ชา. วีสติ. ๒๗/๔๒๗. |
|
|
|
๑๙๕. |
ยํ พุทฺโธ ภาสตี วาจํ |
เขมํ นิพฺพานปตฺติยา |
|
ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย |
สา เว วาจานมุตฺตมา. |
|
พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด เป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระ
นิพพาน และเพื่อทำที่สุดทุกข์, พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุด
แห่งวาจาทั้งหลาย. |
|
( วงฺคีสเถร ) |
ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔. |
|
|
|
๑๙๖. |
สจฺจํ เว อมตา วาจา |
เอส ธมฺโธ สนนฺตโน |
|
สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ |
อหุ สนฺโต ปติฏฺิตา. |
|
คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษทั้งหลาย
เป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม. |
|
( วงฺคีสเถร ) |
ขุ. เถร. ๒๖/๔๓๔. |
|
|
|