๑๔. |
อนิจฺจา อทฺธุวา กามา |
พหุทุกฺขา มหาวิสา |
|
อโยคุโฬว สนฺตตฺโต |
อฆมูลา ทุกฺขปฺผลา. |
|
กามทั้งหลาย ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีทุกข์มาก มีพิษมาก
ดังก้อนเหล็กที่ร้อนจัด เป็นต้นเค้าแห่งความคับแค้น
มีทุกข์เป็นผล. |
|
( สุเมธาเถรี ) |
ขุ. เถรี. ๒๖/๕๐๓. |
|
|
|
๑๕. |
อวิชฺชาย นิวุโต โลโก |
เววิจฺฉา (ปมาทา) นปฺปกาสติ |
|
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ |
ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ. |
|
โลกถูกอวิชชาปิดบังแล้ว ไม่ปรากฏ เพราะความตระหนี่
(และความประมาท) เรากล่าวความอยากว่า เป็นเครื่อง
ฉาบทาโลก ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของโลกนั้น. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๐.
ขุ. จู. ๓๐/๙. |
|
|
|
๑๖. |
อิจฺฉาย พชฺฌตี โลโก |
อิจฺฉาวินยาย มุจฺจติ |
|
อิจฺฉาย วิปฺปหาเนน |
สพฺพํ ฉินฺทติ พนธนํ. |
|
โลกถูกความอยากผูกมัดไว้ จะหลุดได้เพราะกำจัดความอยาก,
เพราะละความอยากเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกทั้งปวงได้. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๖. |
|
|
|
๑๗. |
อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ |
อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา |
|
อิจฺฉาพทฺธา ปุถู สตฺตา |
ปาเสน สกุณี ยถา. |
|
ความอยากย่อมชักลากนรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก,
สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วง
รัดไว้ฉะนั้น. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๖๑. |
|
|
|
๑๘. |
อุเปกฺขโก สทา สโต |
น โลเก มฺตี สมํ |
|
น วิเสสี น นีเจยฺโย |
ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทา. |
|
ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ไม่สำคัญตนว่าเสมอเขา ว่าดีกว่าเขา
ว่าต่ำกว่าเขาในโลก, ผู้นั้นชื่อว่า ไม่มีกิเลสเครื่องฟูขึ้น. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. มหา. ๒๙/๒๗๙.
ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๑. |
|
|
|
๑๙. |
อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส |
สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน |
|
วิกฺขีโร ชาติสํสาโร |
นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว. |
|
ภิกษุผู้ถอนภวตัณหาได้แล้ว มีจิตสงบแล้ว สิ้นความเวียน
เกิดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีก. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. อุ. ๒๕/๑๔๓. |
|
|
|
๒๐. |
เอวมาทีนวํ ตฺวา |
ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวํ |
|
วีตตณฺโห อนาทาโน |
สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช. |
|
ภิกษุรู้โทษอย่างนี้ว่า ตัณหาเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์แล้ว พึง
เป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น มีสติอยู่ทุกอิริยาบถเถิด. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๔๗๘.
ขุ. จู. ๓๐/๓๒๐. |
|
|
|
๒๑. |
กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา
วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ
อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.
|
|
กามทั้งหลาย ตระการหวานชื่นใจ ย่อมย่ำยีจิตโดยรูปร่างต่าง ๆ
กัน บุคลพึงเห็นโทษในกามคุณแล้ว เที่ยวไปผู้เดียวเหมือน
นอแรด. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๓๓๔. |
|
|
|
๒๒. |
โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ
สฺโชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย
ตํ นามรูปสฺมิมสชฺชมานํ
อกิฺจนํ นานุปตนฺติ สงฺคา.
|
|
บุคคลพึงละความโกรธ พึงเลิกถือตัว พึงก้าวล่วงสังโยชน์
ทั้งปวง, (เพราะ) เครื่องข้องทั้งหลาย ย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้อง
ในนามรูป ไม่มีกังวลนั้น |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๓๕๐. |
|
|
|
๒๓. |
โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ
สญฺโชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย
ตนฺนามรูปสฺมึ อสชฺชมานํ
อกิฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา.
|
|
บุคคลพึงละความโกรธ พึงเลิกถือตัว พึงก้าวล่วงสังโยชน์
ทั้งปวง, (เพราะ) ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ติดตามผู้ไม่ข้องอยู่
ในนามรูป
ไม่มีกังวลนั้น. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. ธ . ๒๕/๔๔. |
|
|
|
๒๔. |
ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ |
จิตฺตมสฺส วิธาวติ |
|
สตฺโต สํสารมาปาทิ |
ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ. |
|
ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป
จึงไม่พ้นจากทุกข์. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๑. |
|
|
|
๒๕. |
ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ |
จิตฺตมสฺส วิธาวติ |
|
สตฺโต สํสารมาปาทิ |
ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ. |
|
ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยัง
ท่องเที่ยวไป
จึงมีทุกข์เป็นภัยใหญ่. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๑. |
|
|
|
๒๖. |
ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ |
จิตฺตมสฺส วิธาวติ |
|
สตฺโต สํสารมาปาทิ |
กมฺมํ ตสฺส ปรายนํ. |
|
ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์ยังท่องเที่ยวไป
จึงยังมีกรรมนำหน้า. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๒. |
|
|
|
๒๗. |
ตณฺหาย อุฑฺฑิโต โลโก |
ชราย ปริวาริโต |
|
มจฺจุนา ปิหิโต โลโก |
ทุกฺเข โลโก ปติฏฺิโต. |
|
โลกถูกตัณหาก่อขึ้น ถูกชราล้อมไว้ ถูกมฤตยูปิดไว้ จึงตั้งอยู่
ในทุกข์. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๕. |
|
|
|
๒๘. |
นนฺทิสมฺพนฺธโน โลโก |
วิตกฺกสฺส วิจารณํ |
|
ตณฺหาย วิปฺปหาเนน |
สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนํ. |
|
โลกมีความเพลิดเพลินเป็นเครื่องผูก มีวิตกเป็นเครื่องเที่ยวไป
เพราะละตัณหาเสียได้ จึงชื่อว่าตัดเครื่องผูกไว้ทั้งหมด. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๕. |
|
|
|
๒๙. |
นิทฺทํ ตนฺทึ สเห ถีนํ |
ปมาเทน น สํวเส |
|
อติมาเน น ติฏฺเยฺย |
นิพฺพานมนโส นโร. |
|
คนที่นึกถึงพระนิพพาน พึงครอบงำความหลับ ความ
เกียจคร้าน ความท้อแท้, ไม่พึงอยู่ด้วยความประมาท ไม่พึงตั้ง
อยู่ในความทะนงตัว. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๘. |
|
|
|
๓๐. |
นิราสตฺตี อนาคเต |
อตีตํ นานุโสจติ |
|
วิเวกทสฺสี ผสฺเสสุ |
ทิฏฺีสุ จ น นิยฺยติ. |
|
ผู้ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง ย่อมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไป
แล้ว, ผู้เห็นความสงัดในผัสสะทั้งหลาย ย่อมไม่ถูกชักนำไป
ในทิฏฐิทั้งหลาย. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๐๐.
ขุ. มหา. ๒๙/๒๖๔,๒๖๒. |
|
|
|
๓๑. |
ปุราณํ นาภินนฺเทยฺย |
นเว ขนฺติมกุพฺพเย |
|
หิยฺยมาเน น โสเจยฺย |
อากาสํ น สิโต สิยา. |
|
ไม่พึงเพลิดเพลินของเก่า ไม่พึงทำความพอใจในของใหม่
เมื่อสิ่งนั้นเสื่อมไป ก็ไม่พึงเศร้าโศก ไม่พึงอาศัยตัณหา. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๘. |
|
|
|
๓๒. |
มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก |
ชราย ปริวาริโต |
|
ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ |
อิจฺฉาธูปายิโต สทา. |
|
สัตว์โลกถูกมฤตยูขจัดแล้ว ถูกชราล้อมไว้ ถูกลูกศรคือตัณหา
เสียบแล้ว ถูกอิจฉาคุกรุ่นแล้วทุกเมื่อ. |
|
( พุทฺธ ) |
สํ. ส. ๑๕/๕๕. |
|
|
|
๓๓. |
มานุเปตา อยํ ปชา |
มานคนฺถา มานวินิพฺพทฺธา |
|
ทิฏฺีสุ พฺยารมฺภกตา |
สํสารํ นาติวตฺตติ. |
|
หมู่สัตว์นี้ประกอบด้วยมานะ มีมานะเป็นเครื่องร้อยรัด ถูก
มานะมัดไว้ ทำความแข่งดีเพราะทิฏฐิ ย่อมล่วงสงสารไปไม่ได้. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. อุ. ๒๕/๑๙๓. |
|
|
|
๓๔. |
มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ |
มูฬฺโห ธมฺมํ น ปสฺสติ |
|
อนฺธตมํ ตทา โหติ |
ยํ โมโห สหเต นรํ. |
|
ผู้หลงย่อมไม่รู้อรรถ ผู้หลงย่อมไม่เห็นธรรม ความหลง
ครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๖.
ขุ. มหา. ๒๙/๑๘. |
|
|
|
๓๕. |
ยสฺส นตฺถิ อิทํ เมติ |
ปเรสํ วาปิ กิฺจนํ |
|
มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ |
นตฺถิ เมติ น โสจติ. |
|
ผู้ใดไม่มีกังวลว่า นี้ของเรา นี้ของผู้อื่น ผู้นั้นเมื่อไม่ถือว่า
เป็นของเรา จึงไม่เศร้าโศกว่าของเราไม่มี ดังนี้. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๙.
ขุ. มหา. ๒๙/๕๓๔. |
|
|
|
๓๖. |
โยธ กาเม อจฺจุตฺตริ |
สงฺคํ โลเก ทุรจฺจยํ |
|
น โส โสจติ นาชฺเฌติ |
ฉินฺนโสโต อพนฺธโน. |
|
ผู้ใดข้ามพ้นกามในโลกและเครื่องข้องที่ข้ามได้ยากในโลก,
ผู้นั้นตัดกระแสตัณหาได้แล้ว ไม่มีเครื่องผูก, ชื่อว่าไม่เศร้าโศก
ไม่ยินดี. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๙.
ขุ. มหา. ๒๙/๕๒๗. |
|
|
|
๓๗. |
โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ
ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท
ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา
ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี.
|
|
ผู้ใดไม่รู้ ย่อมก่ออุปธิ ผู้นั้นเป็นคนเขลา เข้าถึงทุกข์บ่อย ๆ
เพราะฉะนั้น ผู้รู้เห็นแดนเกิดแห่งทุกข์ จึงไม่ควรก่ออุปธิ. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๔.
ขุ. จู. ๓๐/๘๐,๘๑ |
|
|
|
๓๘. |
ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ |
ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ |
|
อนฺธตมํ ตทา โหติ |
ยํ โลโภ สหเต นรํ. |
|
ผู้โลภ ย่อมไม่รู้อรรถ ผู้โลภย่อมไม่เห็นธรรม, ความโลภเข้า
ครอบงำคนใดเมื่อใด ความมืดมิดย่อมมีเมื่อนั้น. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. อิติ. ๒๕/๒๙๕.
ขุ. มหา. ๒๙/๑๗. |
|
|
|
๓๙. |
วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ |
วนโต ชายตี ภยํ |
|
เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ |
นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว. |
|
ท่านทั้งหลายจงตัดป่า ( กิเลส ) อย่าตัดต้นไม้, ภัยย่อมเกิด
จากป่า ภิกษุทั้งหลาย ! พวกท่านจงตัดป่า และสิ่งที่ตั้งอยู่
ในป่าแล้ว
เป็นผู้ไม่มีป่า เถิด. |
|
( พุทฺธ ) |
ขุ. ธ. ๒๕/๕๒. |
|
|
|