๘๗. อจินฺติตมฺปิ  ภวติ จินฺติตมฺปิ  วินสฺสติ
น  หิ  จินฺตามยา  โภคา อิตฺถิยา  ปุริสสฺส  วา.
สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้  ย่อมมีได้.  สิ่งที่คิดไว้  ก็เสียหายได้,  โภคะ
ของสตรีหรือบุรุษที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย.
( มหาชนกโพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  มหา.  ๒๘/๑๖๗.
๘๘. อชฺฌตฺตฺจ  พหิทฺธา  จ  เวทนํ  นาภินนฺทโต 
เอวํสตสฺส  จรโต  วิฺาณํ  อุปรุชฺฌติ.
บุคคลไม่เพลินเวทนา  ทั้งภายในทั้งภายนอก  มีสติดำเนินอยู่
อย่างนี้  วิญญาณย่อมดับ.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๕๔๗.
ขุ.  จู.  ๓๐/๒๑๘.
๘๙.
อชฺฌตฺตเมว  อุปสเม
นาฺโต  ภิกฺขุ  สนฺติเมเสยฺย
อชฺฌตฺตํ  อุปสนฺตสฺส
นตฺถิ  อตฺตํ  กุโต  นิรตฺตํ  วา.
ภิกษุพึงสงบกิเลสและบาปธรรมที่เป็นภายในเสีย,  ไม่พึงแสวง
หาความสงบจากที่อื่น,  เมื่อระงับภายในได้แล้ว  สิ่งที่จะพึง
ยึดถือใหม่ย่อมไม่มี  สิ่งที่ยึดถือไว้จำจะสละจะมีแต่ไหน.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๕๑๔.
ขุ.  มหา.  ๒๙/๔๒๕,๔๒๖.
๙๐. อปฺปสฺสาทา  ทุกฺขา  กามา นตฺถิ  กามา  ปรํ  ทุกฺขํ.
เย  กาเม  ปฏิเสวนฺติ นิรยนฺเต  อุปปชฺชเร.
กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย  มีทุกข์มาก ทุกข์อันยิ่งกว่ากาม
ไม่มี  ผู้ใดส้องเสพกาม  ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา  เอกาทสก.  ๒๗/๓๑๕.
๙๑. อพฺยาปชฺโฌ  สิยา  เอวํ  สจฺจวาที  จ  มาณโว 
อสฺมา  โลกา  ปรํ  โลกํ  เอวํ  เปจฺจ  น  โสจติ.
พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน  ( ผู้อื่น )  และกล่าวคำสัตย์อย่างนี้ 
ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก.
( พุทฺธ ) ขุ.  ชา.  มหา.  ๒๘/๓๓๒.
๙๒. 
อลโส  คิหี  กามโภคี  น  สาธุ
อสฺโต  ปพฺพชิโต  น  สาธุ
ราชา  น  สาธุ  อนิสมฺมการี
โย  ปญฺฑิโต  โกธโน  ตํ  น  สาธุ.
คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามเป็นผู้เกียจคร้าน  ไม่ดี,  บรรพชิตไม่
สำรวม  ก็ไม่ดี  พระราชาไม่ทรงใคร่ครวญก่อนแล้วทำ ไม่ดี.
บัณฑิตมักโกรธ  ก็ไม่ดี.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  วีส.  ๒๗/๔๔๖.
๙๓. อสาเร  สารมติโน สาเร  จาสารทสฺสิโน
เต  สารํ  นาธิคจฺฉนฺติ  มิีจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ  และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่า
ไม่เป็นสาระ  เขามีความดำริผิดเป็นโคจร  จึงไม่ประสบ
สิ่งที่เป็นสาระ.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๑๖.
๙๔. อตีตํ  นานุโสจนฺติ  นปฺปชปฺปนฺติ  นาคตํ 
ปจฺจุปฺปนฺเนน  ยาเปนฺติ  เตน  วณฺโณ  ปสีทติ.
บุคคลไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว  ไม่ใฝ่หาสิ่งที่ยังมาไม่พึง,
ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า  เพราะเหตุนั้น  ผิวพรรณย่อมผ่องใส.
( พุทฺธ ) สํ.  ส.  ๑๕/๗.
๙๕. อนวฏฺิตจิตฺตสฺส  ลหหุจิตฺตสฺส  ทุพฺภิโน
นิจฺจํ  อทฺธุวสีลสฺส  สุขภาโว  น  วิชฺชติ.
เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น  เป็นคนใจเบา  มักประทุษร้ายมิตร
มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์  ย่อมไม่มีความสุข.
( สิงฺคิลโพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  จตุกฺก.  ๒๗/๑๔๒.
๙๖. อิตฺถีธุตฺโต  สุราธุตฺโต  อกฺขธุตฺโต  จ  โย  นโร
ลทฺธํ  ลทฺธํ  วินาเสติ  ตํ  ปราภวโต  มุขํ.
คนใดเป็นนักเลงหญิง  นักเลงสุรา  และนักเลงการพนัน
ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ  ข้อนั้นเป็นเหตุแห่ง
ผู้ฉิบหาย.
( พุทฺธ ) สุ.  ขุ.  ๒๕/๓๔๗.
๙๗. อิตฺถี  มลํ  พฺรหฺมจริยสฺส  เอตฺถายํ  สชฺชเต  ปชา 
ตโป  จ  พฺรหฺมจริยฺจ  ตํ  สินานมโนทกํ.
หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์  ประชาชนนี้ข้องอยู่ในหญิงนี้
ตบะและพรหมจรรย์เป็นเครื่องอาบ  ไม่ใช่น้ำ.
( พุทฺธ ) สํ.  ส.  ๑๕/๕๒.
๙๘.
อุปนียติ  ชีวิตมปฺปมายุํ
ชรูปนีตสฺส  น  สนฺติ  ตาณา
เอตํ  ภยํ  มรเณ  เปกฺขมาโน
โลกามิสํ  ปชเห  สนฺติเปกฺโข.
ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้  ถูกชรานำเข้าไป  เมื่อสัตว์ถูกชรานำ
เข้าไปแล้ว  ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน  ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น
มุ่งความสงบ  พึงละโลกามิสเสีย.
( พุทฺธ ) สํ.  ส.  ๑๕/๗๗.
๙๙. อุปสนฺโต  อุปรโต  มนฺตภาณี  อนุทฺธโต
ธุนาติ  ปาปเก  ธมฺเม  ทุมปตฺตํว  มาลุโต.
ผู้สงบ  เว้นบาป  ฉลาดพูด  ไม่ฟุ้งซ่าน  ย่อมขจัดบาปธรรม
เสียได้  เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น.
( มหาโกฏฺิตเถร ) ขุ.  เถร.  ๒๖/๒๖๐.
๑๐๐. เอวฺเจ  สตฺตา  ชาเนยฺยุ  ทุกฺขายํ  ชาติสมฺภโว 
น  ปาโณ  ปาณินํ  หฺเ ปาณฆาตี  หิ  โสจติ.
ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้  ' ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์ '  สัตว์ก็ไม่ควร
ฆ่าสัตว์  เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก.
( รุกฺขเทวตาโพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  เอก.  ๒๗/๖. 
๑๐๑. กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย  มนสานาวิโล  สิยา
กุสโล  สพฺพธมฺมานํ  สโต  ภิกฺขุ  ปริพฺพเช.
ภิกษุไม่ควรติดในกามทั้งหลาย  ควรมีใจไม่ขุ่นมัว ควรเป็น
ผู้ฉลาดในธรรมทั้งปวง  ควรมีสติอยู่ทุกอิริยาบถ.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๕๓๑.
ขุ.  จู.  ๓๐/๒๖.
๑๐๒. ตานิ  เอตานิ  ทิฏฺานิ  ภวเนตฺติ  สมูหตา
อุจฺฉินฺนํ  มูลํ  ทุกฺขสฺส  นตฺถิทานิ  ปุนพฺภโว.
เห็นอริยสัจแล้ว  ถอนตัณหาผู้นำไปสู่ภพได้แล้ว  ตัดมูลรก
แห่งทุกข์ขาดแล้ว  ย่อมไม่มีภพอีกต่อไป.
( พุทฺธ ) ที.  มหา.  ๑๐/๑๐๗.
๑๐๓. ทาเนน  สมจริยาย  สํยเมน  ทเมน  จ
ยํ  กตฺวา  สุขิโต  โหติ  น  จ  ปจฺฉานุตปฺปติ.
คนทำกรรมใดด้วยทาน  ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ 
ด้วยความสำรวม  และด้วยการฝึกตน  ย่อมมีความสุข
เพราะกรรมนั้น ย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  ปกิณฺณก.  ๒๗/๓๙๘.
๑๐๔. นิทฺทาสีลี  สภาสีลี อนุฏฺาตา  จ  โย  นโร
อลโส  โกธปฺาโณ ตํ  ปราภวโต  มุขํ.
คนใดมักหลับ  มักคุย  และไม่ขยัน  เกียจคร้าน  มีความมุทะลุ
ข้อนั้นเป็นเหตุของผู้ฉิบหาย.
( พุทฺธ ) ออกสอบ ๒๕๕๕ ขุ.  สุ.  ๒๕/๓๔๖.
๑๐๕.  ธโช  รถสฺส  ปฺาณํ  ธูโม  ปฺาณมคฺคิโน
ราชา  รฏฺสฺส  ปฺาณํ  ภตฺตา  ปฺาณมิตฺถิยา.
ธงเป็นเครื่องปรากฏของรถ  ควันเป็นเครื่องปรากฏของไฟ
พระราชาเป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น  สามีเป็นเครื่องปรากฏ
ของสตรี.
( พุทฺธ ) ขุ.  ชา.  มหา.  ๒๘/๓๘๖.
๑๐๖. ธมฺมาราโม  ธมฺมรโต  ธมฺมํ  อนุวิจินฺตยํ  
ธมฺมํ  อนุสฺสรํ  ภิกฺขุ  สทฺธมฺมา  น  ปริหายติ.
ภิกษุรื่นรมย์ยินดีในธรรม ใคร่ครวญธรรม  และระลึกถึงธรรม
อยู่เนือง ๆ ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๖๕.
๑๐๗. ปตฺถิ โลเก  รโห  นาม ปาปกมฺมํ  ปกุพฺพโต
ปสฺสนฺติ  วนภูตานิ  ตํ  พาโล  มฺเต  รโห.
ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำความชั่วไม่มีอยู่ในโลก,  คนทั้งหลาย
เห็นเป็นป่า  แต่คนเขลาสำคัญที่นั้นว่าเป็นที่ลับ.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  จตุกฺก.  ๒๗/๑๓๑.
๑๐๘.
น  สานกามสฺส  ทโม  อิธตฺถิ
น  โมนมตฺถิ  อสมาหิตสฺส
เอโก  อรฺเ  วิหรมฺปมตฺโต
น  มจฺจุเธยฺยสฺส  ตเรยฺย  ปารํ.
ในโลกนี้  ผู้ที่ชอบถือตัว  ย่อมไม่มีการฝึกตน,  ตนมีใจไม่
มั่นคง  ย่อมไม่มีความรู้,  ผู้ประมาทแม้อยู่ในป่าคนเดียว 
ก็ข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยูไม่ได้.
( เทวตา ) สํ.  ส.  ๑๕/๖.
๑๐๙. น  ปเรสํ  วิโลมานิ  น  ปเรสํ  กตากตํ  
อตฺตโน  ว  อเวกฺเขยฺย กตานิ  อกตานิ  จ.
ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของคนอื่น,  ไม่ควรมองดูการงานของคนอื่น
ที่เขาทำแล้วยังไม่ได้ทำ,  ควรพิจารณาดูแต่การงานของตนที่ตน
ทำแล้วและยังไม่ได้ทำเท่านั้น.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๒๑.
๑๑๐. ปมาทํ  ภยโต  ทิสฺวา อปฺปมาทฺจ  เขมโต
ภาเวถฏฺงฺคิกํ  มคฺคํ  เอสา  พุทฺธานุสาสนี.
เห็นความประมาทเป็นภัย  และเห็นความไม่ประมาทเป็นความ
ปลอดภัยแล้ว  พึงเจริญมรรคมีองค์ ๘  นี้เป็นพุทธานุศาสนี.
( พุทฺธ ) ขุ.  จริยา.  ๓๓/๕๙๕.
๑๑๑. ปิยานํ  อทสฺสนํ  ทุกฺขํ  อปฺปิยานฺจ  ทสฺสนํ
ตสฺมา  ปิยํ  น  กยิราถ  ปิยาปาโย  หิ  ปาปโก.
การไม่เห็นสิ่งที่รักเป็นทุกข์  และการเห็นสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์
เหตุนั้น  จึงไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่รัก  เพราะความพรากจาก
สิ่งที่รัก  เป็นการทราม.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๔๓.
๑๑๒. มจฺจุนพฺภาหโต  โลโก ปริกฺขิตฺโต  ชราย  จ 
หฺติ  นิจฺจมตฺตาโณ  ปตฺตหณฺโฑว  ตกฺกโร.
โลกถูกมฤตยูกำจัด  ถูกชราล้อมไว้  ไม่มีผู้ต้านทาน  ย่อม
เดือดร้อนเป็นนิตย์  ดุจคนต้องโทษต้องทำตามอาชญาฉะนั้น.
( สิริมณฺฑเถร ) ขุ.  เถร. ๒๖/๓๓๕.
๑๑๓.
ยํ  ลภติ  น  เตน  ตุสฺสติ
ยํ  ปตฺเถติ  ลทฺธํ  หีเฬติ
อิจฺฉา  หิ  อนนฺตโคจรา
วิคติจฺฉานํ  นโม  กโรม  เส.
บุคคลได้สิ่งใด  ไม่ยินดีด้วยสิ่งนั้น,  ปรารถนาสิ่งใด  ดูหมิ่น
สิ่งที่ได้แล้วนั้น,  เพราะความต้องการไม่มีที่สุด,  พวกเราจงทำ
ความนอบน้อมผู้ปราศจากความต้องการเถิด.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  ทุก.  ๒๗/๙๔.
๑๑๔. ยถาหิ  องฺคสมฺภารา  โหติ  สทฺโท  รโถ  อิติ
เอวํ  ขนฺเธสุ  สนฺเตสุ  โหติ  สตฺโตติ  สมฺมติ.
เหมือนอย่างว่า  เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า  เสียงว่ารถย่อมมี
ฉันใด  เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่  การสมมติว่าสัตว์  ย่อมมี
ฉันนั้น.
( วชิราภิกฺขุนี ) สํ. ส.  ๑๕/๑๙๘.
ขุ. มหา.  ๒๙/๕๓๖.
๑๑๕.
ยถาปิ  มูเล  อนุปทฺทเว  ทฬฺเห     
ฉินฺโนปิ  รุกฺโข  ปุนเรว  รูหติ
เอวมฺปิ  ตณฺหานุสเย  อนูหเต
นิพฺพตฺตติ  ทุกฺขมิทํ  ปุนปฺปุนํ.
เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย  ต้นไม้แม้ถูกตัดแล้วย่อมงอกได้
อีกฉันใด,  เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว  ทุกข์นี้ย่อมเกิด
ร่ำไป ฉันนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๖๐.
๑๑๖. ยสฺส  ราโค  จ  โสโส  จ  อวิชฺชา  จ  วิราชิตา
โส  อิมํ  สมุทฺทํ  สคาหํ  สรกฺขสํ
สอุมฺมิภยํ  สุทิตฺตรํ  อจฺจตริ.
ผู้สำรอกราคะโทสะและอวิชชาได้แล้ว  ชื่อว่าได้ข้ามทะเลที่
มีสัตว์ร้าย  มีผู้ร้าย  มีภัยจากคลื่น  อันข้ามไปได้ยากนักนี้.
( พุทฺธ ) สํ.  สฬ.  ๑๘/๑๙๗.
๑๑๗. ยสฺมึ  กามา  น  วสนฺติ  ตณฺหา  ยสฺส  น  วิชฺชติ
กถงฺกถา  จ  โย  ติณฺโณ วิโมกฺโข  ตสฺส  นาปโร.
ผู้ใดไม่มีกามอยู่  ผู้ใดไม่มีตัณหา  และผู้ใดข้ามความสงสัย
ได้,  ผู้นั้นย่อมมีความพ้น  ที่ไม่แปรผันเป็นอย่างอื่นอีก.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๕๔๓. 
ขุ.  จู.  ๓๐/๑๗๐.
๑๑๘.
โย  ทุกฺขมทฺทกฺขิ  ยโตนิทานํ  
กาเมสุ  โส  ชนฺตุ  กถํ  นเมยฺย
อุปธึ  วิทิตฺวาน  สงฺโคติ  โลเก
ตสฺเสว  ชนฺตุ  วินยาย  สิกฺเข.
ผู้ใดเป็นทุกข์ว่าเกิดเพราะกาม,  ผู้นั้นจะพึงน้อม (จิต) ไปในกาม
ได้อย่างไร,  ผู้รู้จักอุปธิว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว  พึงศึกษา
เพื่อกำจัดอุปธิเสีย.
( พุทฺธ ) สํ.  ส.  ๑๕/๑๗๐.
๑๑๙. โย  เว  ตํ  สหตี  ชมฺมี  ตณฺหํ  โลเก  ทุรจฺจยํ
โสกา  ตมฺหา  ปปตนฺติ  อุทพินฺทุว  โปกฺขรา.
ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก  อันล่วงได้ยากในโลก  ความโศก
ทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น  เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัว
ฉะนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๖๐.
๑๒๐.
รเสสุ  เคธํ  อกรํ  อโลโล
อนฺโปสี  สปทานจารี
กุเล  กุเล  อปฺปฏิพทฺธจิตฺโต
เอโก  จเร  ขคฺควิสาณกปฺโป.
ผู้ไม่โลเล  ไม่ทำความติดในรส  ไม่เลี้ยงผู้อื่น  เที่ยว
บิณฑบาตตามลำดับ  มีจิตไม่ติดในสกุล  พึงเที่ยวไปผู้เดียว
เหมือนนอแรด.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๓๓๗.
ขุ.  จู.  ๓๐/๔๐๖.
๑๒๑. ริตฺตสฺส  มุนิโน  จรโต  กาเมสุ  อนเปกฺขิโน 
โอฆติณฺณสฺส  ปิหยนฺติ  กาเมสุ  คธิตา  ปชา.
มุนีผู้ประพฤติตนเป็นคนว่าง  ไม่เยื้อใยในกรม  ข้ามโอฆะได้  ประชาชนผู้ยังติดในกามก็ชอบ.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๔๙๔.
๑๒๒.
วิทฺวา  จ  โย  เวทคู  นโร  อิธ
ภวาภเว  สงฺคมิมํ  วิสชฺช
โส  วีตตณฺโห  อนีโฆ  นิราโส
อตาริ  โส  ชาติชรนฺติ  พฺรูมิ.
ผู้ใดรู้จบพระเวทในโลกนี้  สละเครื่องข้องในภพน้อยใหญ่ได้
แล้ว,  ผู้นั้นปราศจากตัณหา ไม่มีทุกข์ ไม่มีความทะเยอทะยาน,
เรากล่าวว่า  เขาข้ามชาติและชราได้.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๕๓๖.
ขุ.  จู.  ๓๐/๑๐๔,๑๐๗
๑๒๓. วิเวกฺเว  สิกฺเขถ  เอตทริยานมุตฺตมํ
เตน  เสฏฺโ  น  มฺเถ ส  เว  นิพฺพานสนฺติเก.
พึงศึกษาวิเวก  ซึ่งเป็นคุณอันสูงสุดของพระอริยะทั้งหลาย,
ไม่ถือตัวว่าเป็นผู้ประเสริฐเพราะวิเวกนั้น  ผู้นั้นแล  ชื่อว่า
ปฏิบัติใกล้พระนิพพาน.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๔๙๔.
ขุ.  มหา. ๒๙/๑๙๑.
๑๒๔. สงฺเกยฺย  สงฺกิตพฺพานิ รกฺเขยฺยานาคตํ  ภยํ 
อนาคตภยา  ธีโร  อุโภ  โลเก  อเวกฺขติ.
พึงระแวงภัยที่ควรระแวง  พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง  ผู้ฉลาด
ย่อมมองดูโลกทั้ง ๒ เพราะกลัวต่ออนาคต.
( อสฺสตฺถเทวตา ) ขุ.  ชา.  จตุกฺก.  ๒๗/๑๓๖.
๑๒๕.
สฺํ  ปริฺา  วิตเรยฺย  โอฆํ
ปริคฺคเหสุ  มุนิ  โนปลิตฺโต
อพฺพูฬฺหสลฺโล  จรมปฺปมตฺโต
นาสึสติ  โลกมิมํ  ปรฺจ.
กำหนดรู้สัญญาแล้วพึงข้ามโอฆะได้  เป็นมุนีไม่ติดในสิ่งที่
หวงแหน  ถอนลูกศรแล้วเที่ยวไป  ไม่ประมาท  ชื่อว่าไม่หวัง
โลกนี้และโลกหน้า.
( พุทฺธ ) ขุ.  สุ.  ๒๕/๔๘๖.
ขุ.  มหา.  ๒๙/๗๑.
๑๒๖. สนฺตํ  ตสฺส  มนํ  โหติ  สนฺตา  วาจา  จ  กมฺม  จ
สมฺมทฺา  วิมุตฺตสฺส  อุปสนฺตสฺส  ตาทิโน.
เมื่อพ้นเพราะรู้ชอบ  สงบคงที่แล้ว  ใจคอของเขาก็สงบ 
คำพูดและการกระทำก็สงบ.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๒๘.
๑๒๗. สพฺพปาปสฺส  อกรณํ  กุสลสฺสูปสมฺปทา 
สจิตฺตปริโยทปนํ  เอตํ  พุทฺธานาสนํ.
การไม่ทำบาปทั้งปวง  การยังกุศลให้ถึงพร้อม  การทำจิตของ
ตนให้ผ่องแผ้ว,  ๓ ข้อนี้เป็นคำสั่งสอนของท่านผู้รู้ทั้งหลาย.
( พุทฺธ ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๓๙.
๑๒๘. สาธุ  ธมฺมรุจี  ราชา สาธุ  ปฺาณวา  นโร
สาธุ  มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ  สุขํ.
พระราชาดี  ที่ทรงยินดีในธรรม,  คนดี  ที่มีปัญญา,  เพื่อดี
ที่ไม่ประทุษร้ายมิตร,  สุข  อยู่ที่ไม่ทำบาป.
( โพธิสตฺต ) ขุ.  ชา.  ปฺาส.  ๒๘/๒๐.
     
 
ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด
พุทธศาสนสุภาษิต