ปัญหาและเฉลย
วิชาเบญจศีล เบญจธรรม (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
เวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. ทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วง มีความหมายตรงกับข้อใด ?
  ก. ตาย ข. บาดเจ็บ
  ค. พิการ ง. สลบ
 
๒. ข้อใด แสดงออกถึงการขาดเมตตาจิต ?
  ก. เลี้ยงม้า ข. เลี้ยงแมว
  ค. เลี้ยงนก ง. ตกปลา
 
๓. แข่งขันกัดสุนัข เป็นการทรมานสัตว์ลักษณะใด ?
  ก. เล่นสนุก ข. ผจญสัตว์
  ค. ใช้การ ง. นำไป
 
๔. ใช้การ จัดเป็นทรกรรมอย่างหนึ่ง ตรงกับข้อใด ?
  ก. ใช้วัวเทียมเกวียน ข. ใช้ควายไถนา
  ค. ใช้ม้าเกินกำลัง ง. ใช้ช้างลากซุง
 
๕. การรักษาศีลข้อปาณาติบาต ทำให้คนเราเกิดความคิดในเรื่องใด ?
  ก. รักหวงแหนชีวิต ข. ปล่อยชีวิตไปตามกรรม
  ค. เห็นแก่ตัวมากขึ้น ง. ช่วยเหลือคนอื่น
 
๖. อทินนาทาน บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันการล่วงละเมิดในเรื่องใด ?
  ก. ชีวิต ข. ทรัพย์สิน
  ค. มุสาวาท ง. สุราเมรัย
 
๗. วิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น จัดเป็นโจรกรรมข้อใด ?
  ก. ลัก ข. ฉก
  ค. กรรโชก ง. ปล้น
 
๘. กิริยาที่ถือเอาทรัพย์เพื่อช่วยทำธุระในทางที่ผิด เรียกว่าอะไร ?
  ก. สมโจร ข. ปอกลอก
  ค. รับสินบน ง. หยิบฉวย
 
๙. ข้อใด ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการบัญญัติศีลข้อที่ ๓ ?
  ก. ป้องกันการแตกร้าว ข. ป้องกันล่วงละเมิดประเวณี
  ค. ป้องกันกามโรค ง. ป้องกันการทำร้าย
 
๑๐. หญิงผู้เป็นเหล่ากอของตัวในสิกขาบทที่ ๓ หมายถึงข้อใด ?
  ก. ลูกเลี้ยง ข. ลูกบุญธรรม
  ค. ลูกสาว ง. ลูกสะใภ้
 
๑๑. การล่วงละเมิดศีลข้อที่ ๓ เป็นเหตุให้เกิดโรคใด ?
  ก. กามโรค ข. ไข้หวัดนก
  ค. มะเร็ง ง. ปอดบวม
 
๑๒. การอวดอ้างว่า คงกระพัน ยิงฟันไม่เข้า จัดเป็นมุสาวาทประเภทใด ?
  ก. ทำเล่ห์ ข. มารยา
  ค. อำความ ง. เสริมความ
 
๑๓. การกล่าวเกินความเป็นจริง เป็นมุสาวาทประเภทใด ?
  ก. มารยา ข. อำความ
  ค. เสริมความ ง. ทำเลส
 
๑๔. ข้อใด ไม่ใช่ความหมายของมุสาวาท ?
  ก. พูดไม่ตรงความจริง ข. ทำไม่ตรงความจริง
  ค. คิดไม่ตรงความจริง ง. แสดงออกไม่ตรงความจริง
 
๑๕. ข้อใด เป็นมุสาวาททางกาย ?
  ก. เขียนหนังสือเท็จ ข. ให้การเท็จ
  ค. จงใจกล่าวเท็จ ง. พูดคำเท็จ
 
๑๖. พูดยุยงเพื่อให้เขาแตกกัน เรียกว่าอะไร ?
  ก. กลับคำ ข. ยกย่อง
  ค. ส่อเสียด ง. หลอก
 
๑๗. คำพูดประเภทใด ไม่มีโทษแก่ผู้พูด ?
  ก. โวหาร ข. ผิดสัญญา
  ค. เสียสัตย์ ง. คืนคำ
 
๑๘. ข้อใด เป็นความประพฤติเสียหายเพราะดื่มน้ำเมา ?
  ก. ทำลายข้าวของ ข. ทุบตีผู้อื่น
  ค. ทะเลาะวิวาท ง. ถูกทุกข้อ
 
๑๙. ข้อใด อนุโลมเป็นของมึนเมาในสิกขาบทที่ ๕ ?
  ก. น้ำส้ม ข. น้ำชา
  ค. กาแฟ ง. กัญชา
 
๒๐. การดื่มน้ำเมา เป็นเหตุให้เกิดอาการเช่นใด ?
  ก. มึนงง ข. อาเจียน
  ค. หลับไม่สนิท ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๑. ข้อใด ไม่จัดเข้าในโทษของการดื่มน้ำเมา ๖ อย่าง ?
  ก. เสียเงินทอง ข. เสียชื่อเสียง
  ค. เสียคำสัตย์ ง. เสียสุขภาพ
 
๒๒. บุคคลผู้งดเว้นจากข้อห้ามในสิกขาบททั้ง ๕ เรียกว่าอะไร ?
  ก. ผู้มีศีล ข. ผู้มีธรรม
  ค. ผู้มีบุญ ง. ผู้มีคุณ
 
๒๓. พระอริยะไม่ประพฤติล่วงศีล ๕ อย่างเด็ดขาด จัดเป็นวิรัติใด ?
  ก. สัมปัตตวิรัติ ข. สมาทานวิรัติ
  ค. สมุจเฉทวิรัติ ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๔. การไม่ทำร้ายศัตรูขณะที่มีโอกาส จัดเป็นวิรัติข้อใด ?
  ก. สัมปัตตวิรัติ ข. สมาทานวิรัติ
  ค. สมุจเฉทวิรัติ ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๕. ผู้ชื่อว่ากัลยาณชน เพราะมีคุณธรรมใด ?
  ก. เบญจศีล ข. เบญจธรรม
  ค. มนุษยธรรม ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๖. กัลยาณธรรม แปลว่าอะไร ?
  ก. ธรรมอันงาม ข. ธรรมคุ้มครองโลก
  ค. ธรรมอันทำให้งาม ง. ธรรมมีอุปการะมาก
 
๒๗. ข้อปฏิบัติที่ยิ่งกว่าศีล เรียกว่าอะไร ?
  ก. กัลยาณมิตร ข. กัลยาณธรรม
  ค. กัลยาณชน ง. กัลยาณจิต
 
๒๘. กัลยาณธรรมข้อที่ ๑ เป็นเหตุให้มนุษย์มีพฤติกรรมเช่นใด ?
  ก. ช่วยเหลือกัน ข. รักษาศีลได้มั่นคง
  ค. ซื่อตรงต่อกัน ง. มีสติรอบคอบ
 
๒๙. กัลยาณธรรมข้อใด เป็นเหตุให้มนุษย์ละความเบียดเบียนกัน ?
  ก. เมตตากรุณา ข. สัมมาอาชีวะ
  ค. วาจาสัตย์ ง. สติรอบคอบ
 
๓๐. บริจาคทรัพย์ช่วยสุนัขที่ถูกนำไปฆ่า จัดว่ามีกัลยาณธรรมข้อใด ?
  ก. เมตตา ข. กรุณา
  ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
 
๓๑. ข้อใด เป็นการแสดงถึงความมีกรุณาต่อผู้อื่น ?
  ก. ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข ข. ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
  ค. ดีใจเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี ง. เฉย ๆ เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี
 
๓๒. สัมมาอาชีวะ แปลว่าอะไร ?
  ก. เลี้ยงชีพชอบ ข. ตั้งใจชอบ
  ค. เจรจาชอบ ง. ดำริชอบ
 
๓๓. นายจ้างให้ค่าจ้างแรงงานตามสัญญา ชื่อว่าประพฤติเป็นธรรมในอะไร ?
  ก. กิจการ ข. บุคคล
  ค. วัตถุ ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๔. ข้อใด ชื่อว่าประพฤติไม่เป็นธรรมในวัตถุ ?
  ก. ขายของปลอม ข. คืนของปลอม
  ค. ทิ้งของปลอม ง. ใช้ของปลอม
 
๓๕. คนทำงานด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ควรปฏิบัติต่อทรัพย์ที่ได้มาอย่างไร ?
  ก. ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ข. ใช้จ่ายอย่างฝืดเคือง
  ค. ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ง. ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
 
๓๖. ชายหญิงที่แต่งงานกัน ควรเว้นพฤติกรรมใด ?
  ก. ช่วยกันทำมาหากิน ข. พอใจในคู่ครองของตน
  ค. พอใจคู่ครองคนอื่น ง. เลี้ยงดูไม่ทิ้งกัน
 
๓๗. รักนวลสงวนตัว มีความหมายตรงกับกัลยาณธรรมข้อใด ?
  ก. สัมมาอาชีวะ ข. สำรวมในกาม
  ค. ความมีสัตย์ ง. มีสติรอบคอบ
 
๓๘. ข้อใด เป็นโทษของการไม่สำรวมในกาม ?
  ก. เสียการงาน ข. เสียสติ
  ค. เสียวาจาสัตย์ ง. เกิดโรคร้าย
 
๓๙. คนไม่มีสทารสันโดษ มีมูลเหตุมาจากเรื่องใด ?
  ก. ทรัพย์สมบัติ ข. กามารมณ์
  ค. คำพูดเท็จ ง. เสียสติ
 
๔๐. ปติวัตร เป็นคุณประดับสตรี ตรงกับข้อใด ?
  ก. แม่ชี ข. สามเณรี
  ค. ภิกษุณี ง. สตรีมีสามี
 
๔๑. ชายหญิงผู้มักมากในกาม มีลักษณะเช่นใด ?
  ก. ไม่มีสง่าราศรี ข. ชีวิตมีมลทิน
  ค. ถูกติฉินนินทา ง. ถูกทุกข้อ
 
๔๒. การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราช ชื่อว่ามีความสัตย์
ในข้อใด ?
  ก. เที่ยงธรรม ข. ซื่อตรง
  ค. สวามิภักดิ์ ง. กตัญญู
 
๔๓. พระสารีบุตรเถระ แสดงความกตัญญูต่อพระอัสสชิเถระ ได้ชื่อว่าประพฤติ
ิกัลยาณธรรมข้อใด ?
  ก. ความมีสัตย์ ข. ความมีเมตตา
  ค. ความมีกรุณา ง. ความมีสติ
 
๔๔. ผู้พิพากษาตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม จัดเป็นความมีสัตย์ในเรื่องใด ?
  ก. เที่ยงธรรม ข. ซื่อตรง
  ค. สวามิภักดิ์ ง. กตัญญู
 
๔๕. ความเที่ยงธรรม เพิ่มคุณสมบัติให้แก่ศีลข้อใด ?
  ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
  ค. มุสาวาท ง. สุราเมรัย
 
๔๖. ข้อใด ชื่อว่าไม่รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร ?
  ก. พออิ่ม ข. พอดี
  ค. พอควร ง. พอใจ
 
๔๗. คนไม่รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร เกิดผลเสียอย่างไร ?
  ก. เสียหน้าที่ ข. เสียการงาน
  ค. เสียสุขภาพ ง. เสียชื่อเสียง
 
๔๘. การเอาใจใส่ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่ จัดว่ามีสติรอบคอบในเรื่องใด ?
  ก. รู้จักประมาณในการบริโภค ข. ไม่ประมาทในธรรม
  ค. ไม่ประมาทในการงาน ง. มีสติสัมปชัญญะในการประพฤติตัว
 
๔๙. ข้อใด ชื่อว่าไม่ประมาทในโลกธรรม ?
  ก. ดีใจได้เลื่อนตำแหน่ง ข. เสียใจเมื่อตกจากงาน
  ค. โกรธเมื่อถูกนินทา ง. โลกธรรมเป็นเรื่องธรรมดา
 
๕๐. การตั้งอยู่ในกัลยาณธรรม มีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร ?
  ก. เป็นแบบอย่างที่ดี ข. ร่ำรวยเงินทอง
  ค. ธุรกิจก้าวหน้า ง. มีเกียรติยศชื่อเสียง
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๔. หน้า ๒๓๐-๒๔๐.
         

ข้อสอบสนามหลวง