ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. นิพพิทา หมายถึงความหน่ายในอะไร ?
  ก. กองสังขาร ข. ทุกข์
  ค. อัตภาพ ง. อาหาร
 
๒. สูทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ คำว่าสูทั้งหลาย หมายถึงใคร ?
  ก. หมู่สัตว์ ข. หมู่พุทธบริษัท
  ค. หมู่ฆราวาส ง. หมู่พระภิกษุ
 
๓. พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ คำว่า ผู้รู้ หมายถึงใคร ?
  ก. ผู้มีการศึกษา ข. ผู้มีวิสัยทัศน์
  ค. ผู้มีสติ ง. ผู้เห็นโลกตามจริง
 
๔. ผู้ข้องอยู่ในโลก มีอาการเช่นใด ?
  ก. ติดสิ่งล่อใจ ข. ติดข่าวสาร
  ค. ติดสิ่งเสพติด ง. ติดเพื่อน
 
๕. รูป เสียง กลิ่น รส ที่น่าปรารถนา จัดเป็นอะไร ?
  ก. กิเลสกาม ข. วัตถุกาม
  ค. มาร ง. กิเลสตัณหา
 
๖. เสียงประเภทใด จัดเป็นบ่วงแห่งมาร ?
  ก. สรรเสริญ ข. ผรุสวาท
  ค. นินทา ง. มุสาวาท
 
๗. การสำรวมอินทรีย์ ต้องเริ่มที่ใคร?
  ก. พระสงฆ์ ข. ครูอาจารย์
  ค. ตนเอง ง. นักเรียน
 
๘. เห็นสังขารอย่างไร จึงหน่ายในทุกข์ ?
  ก. เห็นด้วยตา ข. เห็นด้วยสมาธิ
  ค. เห็นด้วยปัญญา ง. เห็นด้วยฌาน
 
๙. อนิจฺจตา กำหนดรู้ได้ด้วยอาการอย่างไร ?
  ก. เกิดขึ้นแล้วดับไป ข. ไม่อยู่ในอำนาจ
  ค. ทนได้ยาก ง. มีสภาพคงที่
 
๑๐. ทุกฺขตา มีลักษณะเช่นไร ?
  ก. หาเจ้าของมิได้ ข. ไม่ใช่ตัวตน
  ค. ไม่เที่ยง ง. ทนได้ยาก
 
๑๑. ข้อใดจัดเป็นทุกข์ประจำสังขาร ?
  ก. เกิดแก่ตาย ข. โศกเศร้า
  ค. หิวกระหาย ง. เจ็บไข้
 
๑๒. ปกิณณกทุกข์ ได้แก่ข้อใด ?
  ก. เกิดแก่ตาย ข. เสียใจ
  ค. หนาวร้อน ง. เจ็บไข้
 
๑๓. ข้อใด จัดเป็นนิพัทธทุกข์ ?
  ก. กังวลใจ ข. กลัวแพ้คดี
  ค. คับแค้นใจ ง. ปวดปัสสาวะ
 
๑๔. ข้อใด จัดเป็นสันตาปทุกข์ ?
  ก. ถูกแดดเผา ข. ถูกกิเลสเผา
  ค. ถูกไฟเผา ง. ถูกความหิวเผา
 
๑๕. ข้อใด จัดเป็นวิปากทุกข์ ?
  ก. ค้าความ ข. แจ้งความ
  ค. กลัวแพ้คดี ง. ถูกจองจำ
 
๑๖. เสื่อมยศ จัดเข้าในทุกข์ประเภทใด ?
  ก. สันตาปทุกข์ ข. นิพัทธทุกข์
  ค. สหคตทุกข์ ง. วิวาทมูลกทุกข์
 
๑๗. อนัตตลักขณะ ตรงกับข้อใด ?
  ก. ไม่อยู่ในอำนาจ ข. หาเจ้าของมิได้
  ค. แย้งต่ออัตตา ง. ถูกทุกข้อ
 
๑๘. การไม่เห็นสังขารเป็นอนัตตา เพราะอะไรปิดบังไว้ ?
  ก. นิจจสัญญา ข. ฆนสัญญา
  ค. สันตติ ง. อิริยาบถ
 
๑๙. เห็นสังขารเป็นอนัตตา มีประโยชน์อย่างไร ?
  ก. ละความอยาก ข. ละความถือมั่น
  ค. ละความโกรธ ง. ละความโลภ
 
๒๐. วิราคะตรงกับข้อใด ?
  ก. สิ้นกิเลส ข. สิ้นวัฏฏะ
  ค. สิ้นอาลัย ง. สิ้นกำหนัด
 
๒๑. คำว่า ธรรมยังความเมาให้สร่างนั้น หมายถึงเมาในอะไร ?
  ก. ลาภยศสรรเสริญ ข. สุราเมรัย
  ค. ความรัก ง. สิ่งเสพติด
 
๒๒. ข้อใด ไม่ใช่ไวพจน์แห่งวิราคะ ?
  ก. นิพพาน ข. นิโรธ
  ค. อโลภะ ง. ตัณหักขยะ
 
๒๓. เพราะสิ้นกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้นจากอะไร ?
  ก. ตัณหา ข. อาสวะ
  ค. ราคะ ง. นิวรณ์
 
๒๔. วิมุตติข้อใด จัดเป็นโลกิยะ ?
  ก. ตทังควิมุตติ ข. สมุจเฉทวิมุตติ
  ค. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ ง. นิสสรณวิมุตติ
 
๒๕. วิมุตติข้อใด จัดเป็นโลกุตตระ ?
  ก. สมุจเฉทวิมุตติ ข. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
  ค. นิสสรณวิมุตติ ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๖. หลุดพ้นด้วยอริยมรรค จัดเป็นวิมุตติใด ?
  ก. ตทังควิมุตติ ข. สมุจเฉทวิมุตติ
  ค. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ ง. นิสสรณวิมุตติ
 
๒๗. พิจารณาเห็นสังขารเป็นทุกข์ จัดเป็นญาณใด ?
  ก. อาทีนวญาณ ข. อุทยัพพยญาณ
  ค. ภยตูปัฏฐานญาณ ง. นิพพิทาญาณ
 
๒๘. พิจารณาเห็นสังขารอย่างไร จัดเป็นภยตูปัฏฐานญาณ ?
  ก. เป็นทุกข์ ข. เป็นของย่อยยับ
  ค. เกิดดับ ง. เป็นของน่ากลัว
 
๒๙. อริยมรรคข้อใด จัดเข้าในสีลวิสุทธิ ?
  ก. สัมมาวาจา ข. สัมมาวายามะ
  ค. สัมมาสติ ง. สัมมาสมาธิ
 
๓๐. อริยมรรคข้อใด จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ ?
  ก. สัมมาวาจา ข. สัมมากัมมันตะ
  ค. สัมมาอาชีวะ ง. สัมมาวายามะ
 
๓๑. พิจารณาเห็นสังขารเป็นไตรลักษณ์ จัดเป็นวิสุทธิใด ?
  ก. สีลวิสุทธิ ข. จิตตวิสุทธิ
  ค. ทิฏฐิวิสุทธิ ง. กังขาวิตรณวิสุทธิ
 
๓๒. ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องข้ามความสงสัย จัดเป็นวิสุทธิใด ?
  ก. สีลวิสุทธิ ข. จิตตวิสุทธิ
  ค. ทิฏฐิวิสุทธิ ง. กังขาวิตรณวิสุทธิ
 
๓๓. สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบย่อมไม่มี หมายถึงสงบจากอะไร ?
  ก. เวรภัย ข. กิเลส
  ค. ความวุ่นวาย ง. สงคราม
 
๓๔. ผู้เพ่งความสงบพึงละโลกามิสเสีย คำว่า โลกามิส หมายถึงอะไร ?
  ก. กามคุณ ข. กามกิเลส
  ค. กามฉันทะ ง. กามราคะ
 
๓๕. ข้อใด ทำให้เกิดสันติภายนอก ?
  ก. ให้ทาน ข. รักษาศีล
  ค. เจริญภาวนา ง. เจริญเมตตา
 
๓๖. จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาคืออะไร ?
  ก. เกิดในสวรรค์ ข. เกิดในพรหมโลก
  ค. เข้าถึงนิพพาน ง. เฝ้าพระพุทธเจ้า
 
๓๗. บาลีว่า สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ ยืนยันนิพพานว่า...?
  ก. อนัตตา ข. อัตตา
  ค. สภาวะสูญ ง. สภาวะเที่ยง
 
๓๘. ปฏิบัติอย่างไร ชื่อว่าเข้าใกล้นิพพาน?
  ก. รักษาศีล ข. ฟังธรรม
  ค. ฝึกจิต ง. เห็นภัยในความประมาท
 
๓๙. คำว่า นิพพานมิใช่โลกนี้หรือโลกอื่นนั้น ส่องความว่านิพพานเป็น...?
  ก. โลกทิพย์ ข. โลกพิเศษ
  ค. โลกสมมติ ง. ไม่มีข้อถูก
 
๔๐. ข้อใด กล่าวถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้ถูกต้อง ?
  ก. ละกิเลส ข. สิ้นกิเลสสิ้นชีวิต
  ค. สิ้นกิเลสมีชีวิตอยู่ ง. มีกิเลสมีชีวิต
 
๔๑. การบรรลุนิพพานมีผลอย่างไร ?
  ก. เพลิดเพลิน ข. เป็นสุขอย่างยิ่ง
  ค. ยินดีอย่างยิ่ง ง. รื่นรมย์อย่างยิ่ง
 
๔๒. สมถกัมมัฏฐาน มีความหมายตรงกับข้อใด ?
  ก. กำจัดกิเลส ข. ละสังโยชน์
  ค. รู้แจ้งเห็นจริง ง. ทำใจให้สงบ
 
๔๓. ข้อใด เป็นมูลกัมมัฏฐาน ?
  ก. ดินน้ำลมไฟ ข. รูปเสียงกลิ่นรส
  ค. ผมขนเล็บฟันหนัง ง. ตาหูจมูกลิ้น
 
๔๔. การเจริญมูลกัมมัฏฐาน กำจัดนิวรณ์ใด ?
  ก. กามฉันทะ ข. พยาบาท
  ค. ถีนมิทธะ ง. วิจิกิจฉา
 
๔๕. คนโกรธง่าย ควรเจริญกัมมัฏฐานข้อใด ?
  ก. กายคตาสติ ข. อสุภกัมมัฏฐาน
  ค. เมตตาพรหมวิหาร ง. อานาปานัสสติ
 
๔๖. คนรักง่ายหน่ายเร็ว ควรเจริญกัมมัฏฐานข้อใด ?
  ก. สีลานุสสติ ข. อสุภกัมมัฏฐาน
  ค. เมตตาพรหมวิหาร ง. กสิณ
 
๔๗. การเจริญมรณัสสติ มีประโยชน์อย่างไร ?
  ก. ไม่ประมาท ข. เกิดทุกข์
  ค. วางเฉย ง. สลดใจ
 
๔๘. เห็นแจ้งอะไร จัดเป็นวิปัสสนา ?
  ก. รูป ข. นาม
  ค. เวทนา ง. นามรูป
 
๔๙. ข้อใด เป็นอารมณ์ของวิปัสสนา ?
  ก. พรหมวิหาร ข. นามรูป
  ค. อสุภะ ง. กสิณ
 
๕๐. พิจารณากายอย่างไร จึงจัดเป็นวิปัสสนา ?
  ก. ปฏิกูล ข. ไม่สะอาด
  ค. น่าเกลียด ง. ไม่เที่ยง
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๗. หน้า
ข้อสอบจริง สอบวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.
 

ข้อสอบสนามหลวง