ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาท (X) ลงในช่อง
ของข้อที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. พระพุทธเจ้าตรัสชวนพุทธบริษัทให้มาดูโลก เพื่อประโยชน์ใด ?
  ก. ให้เห็นคุณและโทษ ข. ให้เกิดความเบื่อหน่าย
  ค. ให้เกิดความเพลิดเพลิน ง. ให้เกิดความไม่ประมาท
 
๒. ทำอย่างไร ถึงจะไม่ข้องอยู่ในโลก ?
  ก. ออกบวช ข. ปรารถนาไม่เกิดอีก
  ค. ไม่ยุ่งกับใคร ง. ไม่ติดในสิ่งล่อใจ
 
๓. ผู้ไม่ข้องอยู่ในโลก จะได้รับผลอย่างไร ?
  ก. เป็นคนรู้ทันโลก ข. พ้นจากความวุ่นวาย
  ค. เป็นอิสระแก่ตน ง. เป็นคนมีอุเบกขา
 
๔. เจตสิกที่เป็นกิเลสกามเกี่ยวข้องกับจิตอย่างไร ?
  ก. ทำให้จิตผ่องใส ข. ทำให้จิตเศร้าหมอง
  ค. ทำให้จิตอ่อนแอ ง. ทำให้จิตเข้มแข็ง
 
๕. รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่น่าใคร่ ตรงกับข้อใด ?
  ก. กิเลสกาม ข. วัตถุกาม
  ค. กามโอฆะ ง. กามโยคะ
 
๖. ปฏิบัติอย่างไร จึงจะตัดบ่วงแห่งมารได้เป็นสมุจเฉทปหาน ?
  ก. เจริญวิปัสสนา ข. สำรวมอินทรีย์
  ค. เข้าฌานสมาบัติ ง. มนสิการกัมมัฏฐาน
 
๗. ผู้ใดเห็นตามจริงด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ผู้นั้น...?
  ก. ย่อมเมาในทุกข์ ข. ย่อมพ้นจากทุกข์
  ค. ย่อมหมดสิ้นทุกข์ ง. ย่อมหน่ายในทุกข์
 
๘. ความต่างกันแห่งสังขาร มีได้เพราะอะไร ?
  ก. บุญ ข. บาป
  ค. กุศล ง. กรรม
 
๙. หน่ายอะไร จัดเป็นนิพพิทา ?
  ก. หน่ายสังขาร ข. หน่ายสังคม
  ค. หน่ายการเรียน ง. หน่ายการงาน
 
๑๐. คนและสัตว์ จัดเป็นสังขารประเภทใด ?
  ก. วิสังขาร ข. ปุญญาภิสังขาร
  ค. อุปาทินนกสังขาร ง. อนุปาทินนกสังขาร
 
๑๑. ในปฏิปทาแห่งนิพพิทา ใครเห็นปัญจขันธ์ไม่เที่ยงแล้วเกิด
ความหน่าย ?
  ก. บรรพชิต ข. คฤหัสถ์
  ค. ปุถุชน ง. อริยสาวก
 
๑๒. อนิจจตา มีลักษณะเช่นไร ?
  ก. ทนอยู่ไม่ได้ ข. หาเจ้าของไม่ได้
  ค. เกิดแล้วเสื่อมไป ง. ไม่อยู่ในอำนาจ
 
๑๓. อนิจจลักษณะไม่ปรากฎในที่ใด ?
  ก. นรก ข. สวรรค์
  ค. พรหมโลก ง. นิพพาน
 
๑๔. ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา จัดเข้าในทุกข์
ประเภทใด ?
  ก. วิปากทุกข์ ข. ปกิณกทุกข์
  ค. สันตาปทุกข์ ง. สหคตทุกข์
 
๑๕. หนาว ร้อน หิว กระหาย จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
  ก. สภาวทุกข์ ข. วิปากทุกข์
  ค. นิพัทธทุกข์ ง. สหคตทุกข์
 
๑๖. ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข โทมนัส จัดเป็นทุกข์ประเภทใด ?
  ก. นิพัทธทุกข์ ข. วิปากทุกข์
  ค. ปกิณกทุกข์ ง. สหคตทุกข์
 
๑๗. ข้อใด จัดเป็นวิปากทุกข์ ?
  ก. กลัวแพ้คดี ข. กลัวไม่มีงานทำ
  ค. หิว กระหายน้ำ ง. ร้อนใจจากการทุจริต
 
๑๘.

คำว่า คนตื่นแล้วย่อมไม่เห็นอารมณ์ในความฝัน ฉันใด
บ่งถึงสังขารในลักษณะใด ?

  ก. เป็นสภาพว่าง ข. เป็นสภาพหายไป
  ค. ไม่อยู่ในอำนาจ ง. เป็นไปตามเหตุปัจจัย
 
๑๙. ชีวิตไม่ได้ดั่งใจหวังเสมอไป ตรงกับอนัตตลักษณะข้อใด ?
  ก. ไม่อยู่ในอำนาจ ข. เป็นสภาพสูญ
  ค. หาเจ้าของมิได้ ง. เป็นไปตามเหตุปัจจัย
 
๒๐. เมื่อรู้ว่า สังขารเป็นไปตามเหตุปัจจัย พึงปฏิบัติอย่างไร ?
  ก. มีสุขทุกเมื่อ ข. มีทุกข์ทุกเมื่อ
  ค. มีสติทุกเมื่อ ง. วางเฉยทุกเมื่อ
 
๒๑. วิราคะ เกิดจากข้อใด ?
  ก. ความสงบ ข. ความหลุดพ้น
  ค. ความบริสุทธิ์ ง. ความหน่ายสังขาร
 
๒๒. ความนำออกเสียซึ่งความระหาย หมายถึงนำอะไรออก ?
  ก. วัฏฏะ ข. ตัณหา
  ค. อาลัย ง. ความเมา
 
๒๓. วิมุตติข้อใด เป็นของปุถุชน ?
  ก. สมุทเฉทวิมุตติ ข. วิกขัมภนวิมุตติ
  ค. นิสสรณวิมุตติ ง. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
 
๒๔. วิมุตติข้อใด จัดเป็นโลกิยะ ?
  ก. สมุจเฉทวิมุตติ ข. ตทังควิมุตติ
  ค. นิสสรณวิมุตติ ง. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
 
๒๕. วิกขัมภนวิมุตติ เป็นความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งอะไร ?
  ก. ฌาน ข. ญาณ
  ค. ปัญญา ง. สัทธา
 
๒๖. ข้อใด จัดเป็นทางแห่งวิสุทธิ ?
  ก. วิมุตติ ข. นิพพิทา
  ค. วิราคะ ง. นิพพาน
 
๒๗. ความบริสุทธิ์ภายใน ย่อมมีด้วยอะไร ?
  ก. สมถะ ข. สมาธิ
  ค. ฌาน ง. ปัญญา
 
๒๘. ทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง ไม่ทำบาปเองย่อมหมดจดเอง
ตรงกับข้อใด ?
  ก. บุญบาปไม่มี ข. บุญบาปเกิดจากตนเอง
  ค. บุญบาปเกิดเอง ง. บุญบาปเกิดจากเทพเจ้า
 
๒๙. จุติอย่างไร จึงจะไปเกิดในภพที่ดี ?
  ก. นึกถึงพระอรหันต์ ข. อธิษฐานจิตไปสวรรค์
  ค. เจริญเทวตานุสสติ ง. ทำจิตไม่ให้เศร้าหมอง
 
๓๐. ข้อใด ไม่ใช่สัมมาวายามะ ?
  ก. พยายามระงับปัญหา ข. พยายามป้องกันปัญหา
  ค. พยายามหนีปัญหา ง. พยายามพัฒนาสิ่งดีงาม
 
๓๑. จงพอกพูนทางแห่งความสงบ อะไรเรียกว่า ทาง ?
  ก. ไตรทวาร ข. วิสุทธิ ๗
  ค. ไตรสิกขา ง. มรรค ๘
 
๓๒. โลกามิส เป็นอุปสรรคของธรรมใด ?
  ก. วิสุทธิ ข. วิมุตติ
  ค. วิราคะ ง. สันติ
 
๓๓. ข้อใด เป็นทางสันติภาพแท้ ตามวิถีพุทธ ?
  ก. เคารพสิทธิมนุษยชน ข. ทำกาย วาจา ใจ ให้สงบ
  ค. เคารพกฎหมายบ้านเมือง ง. พยายามปรับปรุงตัวเอง
 
๓๔. อนฺโต ทุกฺขสฺส ที่สุดแห่งทุกข์ ตรงกับข้อใด ?
  ก. ฌาน ข. มรรค
  ค. นิพพาน ง. วิมุตติ
 
๓๕. ข้อใด ไม่ใช่วิธีปลูกฉันทะในนิพพาน ?
  ก. ทำกิจที่ควรทำ ข. ทำทุกรกิริยา
  ค. ไม่เป็นผู้อยู่เปล่า ง. อยู่ด้วยความไม่มีภัย
 
๓๖. ปฏิบัติอย่างไร จึงจะเข้าใกล้พระนิพพาน ?
  ก. รักษาศีลเป็นประจำ ข. ฝึกสมาธิเป็นนิตย์
  ค. ฟังธรรมสม่ำเสมอ ง. เห็นภัยในความประมาท
 
๓๗. ข้อใด กล่าวถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้ถูกต้อง ?
  ก. สิ้นกิเลส มีชีวิตอยู่ ข. ปฏิบัติเพื่อละกิเลส
  ค. สิ้นกิเลส สิ้นชีวิต ง. สิ้นชีวิต มีกิเลสอยู่
 
๓๘. สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิ คือข้อใด ?
  ก. นิวรณ์ ข. กามคุณ
  ค. วิปลาส ง. อุปกิเลส
 
๓๙. คนมักง่วงนอน ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. กสิณ ข. มูลกัมมัฏฐาน
  ค. พรหมวิหาร ง. พุทธานุสสติ
 
๔๐. อิริยาบถใด ไม่เหมาะแก่ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน ?
  ก. ยืน ข. เดิน
  ค. นั่ง ง. นอน
 
๔๑. มูลกัมมัฏฐาน ตรงกับข้อใด ?
  ก. เบญจขันธ์ ข. อายตนภายใน
  ค. ตจปัญจกะ ง. อายตนภายนอก
 
๔๒. การเจริญกายคตาสติ มีประโยชน์อย่างไร ?
  ก. ละความเห็นผิด ข. ละความเห็นแก่ตัว
  ค. ละความโกรธ ง. ละความพอใจในกาม
 
๔๓. คนหลงในรูปตนและคนอื่น ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. เมตตา ข. พุทธานุสสติ
  ค. กายคตาสติ ง. จตุธาตุววัตถาน
 
๔๔. การแผ่เมตตา ควรแผ่ไปในใครก่อน ?
  ก. ตนเอง ข. มารดาบิดา
  ค. มิตรสหาย ง. สัตว์ทั้งปวง
 
๔๕. ข้อใด เป็นอานิสงส์ของการเจริญเมตตา ?
  ก. ไม่มีอคติ ข. ไม่มีภัยเวร
  ค. ไม่ประมาท ง. มีคนนับถือ
 
๔๖. ข้อใด เป็นอานิสงส์ของการเจริญพุทธานุสสติ ?
  ก. ได้รู้พุทธประวัติ ข. ให้เกิดปัญญา
  ค. ให้มีความอดทน ง. ให้มีความอุตสาหะ
 
๔๗. คนมีใจฟุ้งซ่านและรำคาญ ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. กสิณ ข. กายคตาสติ
  ค. พุทธานุสสติ ง. จตุธาตุววัตถาน
 
๔๘. ผู้จะเจริญวิปัสสนา ควรทำกิจใดก่อน ?
  ก. ทำจิตใจให้สงบ ข. ชำระศีลให้บริสุทธิ์
  ค. ชำระจิตให้บริสุทธิ์ ง. ทำความเห็นให้ตรง
 
๔๙. กิจของวิปัสสนา ได้แก่ข้อใด ?
  ก. กำจัดกิเลส ข. กำจัดโทสะ
  ค. กำจัดโมหะ ง. กำจัดนิวรณ์
 
๕๐. ผลของวิปัสสนา คือข้อใด ?
  ก. มีจิตตั้งมั่น ข. เห็นนิพพานตามจริง
  ค. เห็นโลกตามจริง ง. เห็นสังขารตามจริง
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๓. หน้า ๒๕๘-๒๖๘.
         

ข้อสอบสนามหลวง