รวมข้อสอบสนามหลวงวิชาธรรม
ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลง ● ในช่อง
ของข้อที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. พระพุทธเจ้าทรงเปรียบอะไรว่า ตระการดุจราชรถ ?
  ก. โลก ข. ชีวิต
  ค. อัตภาพ ง. สังขาร
 
๒. นิพพิทา คือความหน่ายในอะไร ?
  ก. การศึกษา ข. ทุกข์
  ค. บริวาร ง. ชีวิต
 
๓. คำว่า คนไร้พิจารณ์ หมายถึงใคร ?
  ก. คนไร้การศึกษา ข. คนไร้ศีลธรรม
  ค. คนขาดสติ ง. คนเขลา
 
๔. ผู้เห็นโลกตามเป็นจริง ได้รับผลอย่างไร ?
  ก. ได้สุขบ้างทุกข์บ้าง ข. ได้สามิสสุข
  ค. ได้สิ่งที่ปรารถนา ง. ได้นิรามิสสุข
 
๕. อะไร จัดเป็นบ่วงแห่งมาร ?
  ก. รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ข. โลภะ โทสะ โมหะ
  ค. ตา หู จมูก ลิ้น กาย ง. ตัณหา ราคะ อรติ
 
๖. ปฏิบัติอย่างไร จึงจะพ้นจากบ่วงแห่งมาร ?
  ก. สำรวมกาย ข. สำรวมวาจา
  ค. สำรวมจิต ง. สำรวมในศีล
 
๗. สังขารในขันธ์ 5 หมายถึงอะไร ?
  ก. สภาพที่ปรุงแต่งจิต ข. สภาพที่เป็นเอง
  ค. สภาพที่คงอยู่ ง. สภาพที่เสื่อมไป
 
๘. อะไรจำแนกสัตว์ให้แตกต่างกัน ?
  ก. กรรม ข. กิเลส
  ค. บุญ ง. กุศล
 
๙. การเพิกสันตติได้ ทำให้เห็นอะไร ?
  ก. สามัญญลักษณะ ข. อนิจจลักษณะ
  ค. ทุกขลักษณะ ง. อนัตตลักษณะ
 
๑๐. อนิจจลักษณะกำหนดรู้ในทางง่าย ด้วยอาการอย่างไร ?
  ก. เกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ ข. เกิดขึ้นแล้วดับไป
  ค. แปรไประหว่างเกิดดับ ง. แปรไปชั่วขณะหนึ่ง
 
๑๑. ชาติ ชรา มรณะ จัดเป็นทุกข์อะไร ?
  ก. สภาวทุกข์ ข. ปกิณณกทุกข์
  ค. นิพัทธทุกข์ ง. พยาธิทุกข์
 
๑๒. กังวลใจเพราะสัตว์เลี้ยง จัดเป็นทุกข์อะไร ?
  ก. วิปากทุกข์ ข. ปกิณณกทุกข์
  ค. สหคตทุกข์ ง. สันตาปทุกข์
 
๑๓. ข้อใด เป็นลักษณะของนิพัทธทุกข์ ?
  ก. เกิด แก่ เจ็บ ตาย ข. ไม่สบายกาย ใจ
  ค. หนาว ร้อน หิว กระหาย ง. ร้องไห้เสียใจ
 
๑๔. ข้อใด จัดเป็นพยาธิทุกข์ ?
  ก. ความเจ็บไข้ ข. ความเศร้าโศก
  ค. ความคับแค้นใจ ง. ความหิวกระหาย
 
๑๕. ทุกข์เพราะถูกกิเลสเผา จัดเป็นทุกข์อะไร ?
  ก. สภาวทุกข์ ข. ปกิณณกทุกข์
  ค. สันตาปทุกข์ ง. วิปากทุกข์
 
๑๖. การสู้คดีความกัน จัดเป็นทุกข์อะไร ?
  ก. อาหารปริเยฏฐิทุกข์ ข. วิปากทุกข์
  ค. สันตาปทุกข์ ง. วิวาทมูลกทุกข์
 
๑๗. คำว่า ธรรม ในบทว่า สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา หมายถึงอะไร ?
  ก. กุศลมูล อกุศลมูล ข. กุศลวิตก อกุศลวิตก
  ค. สังขาร วิสังขาร ง. กุศลธรรม อกุศลธรรม
 
๑๘. ข้อใด ไม่ใช่ลักษณะของอนัตตาแห่งสังขาร ?
  ก. ไม่อยู่ในอำนาจ ข. แย้งต่ออัตตา
  ค. หาเจ้าของมิได้ ง. เป็นกลุ่มก้อน
 
๑๙. ข้อใด ไม่ใช่ไวพจน์ของวิราคะ ?
  ก. ความสิ้นตัณหา ข. ความดับ
  ค. ความเข้าไปตัดวัฏฏะ ง. ความหน่าย
 
๒๐. ความติดพ้นห่วงใยในอารมณ์อันเป็นที่รัก เรียกว่าอะไร ?
  ก. อาสวะ ข. สังโยชน์
  ค. ความสิ้นตัณหา ง. ความหน่าย
 
๒๑. วิมุตติ แปลว่าอะไร ?
  ก. ความหลุดพ้น ข. ความสิ้นกำหนัด
  ค. ความสิ้นตัณหา ง. ความหน่าย
 
๒๒. เพราะสิ้นกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้นจากอะไร ?
  ก. อาสวะ ข. ตัณหา
  ค. ราคะ ง. นิวรณ์
 
๒๓. การบวงสรวงอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จัดเข้าในอาสวะใด ?
  ก. กามาสวะ ข. ภวาสวะ
  ค. อวิชชาสวะ ง. ผลาสวะ
 
๒๔. การระงับกิเลสกามและอกุศลธรรมด้วยกำลังฌาน จัดเป็นอะไร ?
  ก. ตทังควิมุตติ ข. วิกขัมภนวิมุตติ
  ค. สมุจเฉทวิมุตติ ง. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
 
๒๕. ความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีใด ?
  ก. ลอยบาป ข. ชำระบาป
  ค. ไถ่บาป ง. ไม่ทำบาป
 
๒๖. เล็งเห็นสังขารว่าเป็นทุกข์ จัดเป็นญาณอะไร ?
  ก. อุทยัพพยญาณ ข. ภังคญาณ
  ค. อาทีนวญาณ ง. นิพพิทาญาณ
 
๒๗. สัมมาวายามะ ตรงกับข้อใด ?
  ก. พยายามชอบ ข. ตั้งใจชอบ
  ค. ระลึกชอบ ง. ดำริชอบ
 
๒๘. อริยมรรคข้อใด จัดเข้าในสีลวิสุทธิ ?
  ก. สัมมาทิฏฐิ ข. สัมมาวายามะ
  ค. สัมมากัมมันตะ ง. สัมมาสังกัปปะ
 
๒๙. อริยมรรคข้อใด จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ ?
  ก. สัมมาวาจา ข. สัมมาวายามะ
  ค. สัมมากัมมันตะ ง. สัมมาอาชีวะ
 
๓๐. พิจารณาเห็นสังขารอย่างไร จัดเป็นทิฏฐิวิสุทธิ ?
  ก. เห็นไตรลักษณ์ ข. เห็นไตรรัตน์
  ค. เห็นไตรภูมิ ง. เห็นไตรเพท
 
๓๑. วิสุทธิใด จัดเป็นโลกุตตระ ?
  ก. จิตตวิสุทธิ ข. ทิฏฐิวิสุทธิ
  ค. กังขาวิตรณวิสุทธิ ง. ญาณทัสสนวิสุทธิ
 
๓๒. ข้อใด ทำให้เกิดสันติภายนอก ?
  ก. การรักษาศีล ข. การเจริญภาวนา
  ค. การปฏิบัติธรรม ง. การเจริญกัมมัฏฐาน
 
๓๓. ผู้เพ่งความสงบพึงละโลกามิสเสีย คำว่า โลกามิส คืออะไร ?
  ก. กามกิเลส ข. กามคุณ
  ค. กามราคะ ง. กามฉันทะ
 
๓๔. ข้อปฏิบัติเป็นทางไปสู่พระนิพพาน ตรงกับข้อใด ?
  ก. วิมุตติ ข. มรรค
  ค. นิพพิทา ง. วิราคะ
 
๓๕. ผู้ไม่ประมาทและเห็นภัยในความประมาท จัดเป็นคนเช่นไร ?
  ก. รู้จักพระนิพพาน ข. ใกล้พระนิพพาน
  ค. เข้าสู่พระนิพพาน ง. ถึงพระนิพพาน
 
๓๖. ข้อใด กล่าวถึงสอุปาทิเสสนิพพานได้ถูกต้อง ?
  ก. สิ้นชีวิตมีกิเลสอยู่ ข. สิ้นชีวิตสิ้นกิเลส
  ค. สิ้นกิเลสมีชีวิตอยู่ ง. สิ้นกิเลสสิ้นตัณหา
 
๓๗. เพราะละอะไรได้ ท่านจึงกล่าวว่านิพพาน ?
  ก. ความโกรธ ข. ความหลง
  ค. นิวรณ์ ง. ตัณหา
 
๓๘. อุปมาว่า ไฟสิ้นเชื้อแล้วย่อมดับไปเอง กล่าวถึงเรื่องใด ?
  ก. ฌาน ข. สมาบัติ
  ค. อภิญญา ง. นิพพาน
 
๓๙. สมถกัมมัฏฐาน ตรงกับข้อใด ?
  ก. การรู้แจ้งเห็นจริง ข. การกำจัดกิเลส
  ค. การทำใจให้สงบ ง. การละสังโยชน์
 
๔๐. บุคคลเช่นไร เจริญกัมมัฏฐานได้ผลดี ?
  ก. มีความกังวล ข. มีความฟุ้งซ่าน
  ค. มีความเบื่อหน่าย ง. มีสติสัมปชัญญะ
 
๔๑. การเจริญสมถกัมมัฏฐาน เพื่อจุดประสงค์ใด ?
  ก. สงบจากนิวรณ์ ข. เห็นแจ้งกองสังขาร
  ค. เห็นแจ้งไตรลักษณ์ ง. หลุดพ้นจากกิเลส
 
๔๒. ประโยชน์ของการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน คือข้อใด ?
  ก. เพื่อรู้แจ้งเห็นจริง ข. เพื่อคลายกำหนัด
  ค. เพื่อให้เกิดเมตตา ง. เพื่อกำจัดความโกรธ
 
๔๓. คนโทสจริต มีลักษณะเช่นไร ?
  ก. เชื่อง่าย ข. โมโหง่าย
  ค. รักง่าย ง. หลงง่าย
 
๔๔. คนมักโกรธ ควรแก้ด้วยการเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. กายคตาสติ ข. อสุภกัมมัฏฐาน
  ค. เมตตาพรหมวิหาร ง. กสิณ
 
๔๕. การเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน เพื่อจุดประสงค์ใด ?
  ก. สงบกาย ข. สงบวาจา
  ค. สงบใจ ง. รู้แจ้งเห็นจริง
 
๔๖. คำว่า วิปัสสนา มีความหมายว่าอย่างไร ?
  ก. เห็นแจ้งรูปนาม ข. เห็นแจ้งอวิชชา
  ค. เห็นแจ้งสังขาร ง. เห็นแจ้งพระนิพพาน
 
๔๗. ข้อใด เป็นอารมณ์ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน ?
  ก. พรหมวิหาร ข. กสิณ
  ค. อสุภะ ง. รูปนาม
 
๔๘. ผู้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ควรทำกิจใดก่อน ?
  ก. ทำจิตให้เป็นสมาธิ ข. ชำระศีลให้บริสุทธิ์
  ค. ชำระจิตใจบริสุทธิ์ ง. ทำความเห็นให้ตรง
 
๔๙. พิจารณากายอย่างไร จึงจัดเป็นวิปัสสนา ?
  ก. ปฏิกูลน่าเกลียด ข. ไม่งามน่ารังเกียจ
  ค. เต็มไปด้วยของไม่สะอาด ง. ไม่เที่ยงต้องแตกสลาย
 
๕๐. กัมมัฏฐานเบื้องต้นที่พระอุปัชฌาย์สอนนาคผู้ขอบวช คือข้อใด ?
  ก. ศีล สมาธิ ปัญญา ข. ทาน ศีล ภาวนา
  ค. ผม ขน เล็บ ฟัง หนัง ง. ปฐวี อาโป เตโช วาโย
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๕. หน้า ๒๗๓-๒๘๓.
         

ข้อสอบสนามหลวง