ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันพฤหัสบดี ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว ระบายในกระดาษใบตอบ
ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. สมถกัมมัฏฐาน เป็นอุบายให้สงบอะไร ?
  ก. สงบกาย ข. สงบวาจา
  ค. สงบใจ ง. เรืองปัญญา
 
๒. การเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานมีประโยชน์อย่างไร ?
  ก. ทำให้จิตสงบ ข. ทำให้รู้แจ้ง
  ค. ทำให้จิตผ่องใส ง. ทำให้เบื่อหน่าย
 
๓. ผู้ลุ่มหลงหมกมุ่นอยู่ในสิ่งอันน่าใคร่ เพราะถูกอะไรครอบงำ ?
  ก. กิเลสกาม ข. วัตถุกาม
  ค. กามาสวะ ง. กามวิตก
 
๔. ปฏิบัติบูชา มีประโยชน์สูงสุดอย่างไร ?
  ก. ทำให้พ้นทุกข์ ข. ทำให้มีบริวาร
  ค. ทำให้จิตสงบ ง. ทำให้คนนับถือ
 
๕. ต้อนรับแบบใด จัดเป็นธัมมปฏิสันถาร ?
  ก. เลี้ยงอาหาร ข. สนทนาธรรม
  ค. ให้สิ่งของ ง. ให้หนังสือ
 
๖. อะไรเป็นเจตสิกสุข คือสุขทางใจ ?
  ก. มีทรัพย์ใช้จ่าย ข. ไม่มีโรค
  ค. สุขภาพจิตดี ง. พลานามัยดี
 
๗. กามวิตก เป็นเหตุให้ละเมิดศีลข้อใด ?
  ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
  ค. กาเมสุ มิจฉาจาร ง. มุสาวาท
 
๘. วิหิงสาวิตก มีอะไรเป็นมูลเหตุ?
  ก. โลภะ ข. โทสะ
  ค. โมหะ ง. ราคะ
 
๙. คิดอย่างไร จัดเป็นอพยาบาทวิตก ?
  ก. ออกจากกาม ข. ไม่คิดปองร้าย
  ค. ไม่ลุ่มหลง ง. ไม่เบียดเบียน
 
๑๐. ราคะ โทสะ โมหะ เผาอะไรให้เร่าร้อน ?
  ก. โลก ข. กิเลส
  ค. จิตใจ ง. ร่างกาย
 
๑๑. คนหงุดหงิดฉุนเฉียวโกรธง่าย เพราะถูกไฟใดแผดเผา ?
  ก. ไฟคือราคะ ข. ไฟคือโทสะ
  ค. ไฟคือโมหะ ง. ไฟคือตัณหา
 
๑๒. อัตตาธิปเตยยะ ถืออะไรเป็นใหญ่ ?
  ก. ตนเอง ข. สังคม
  ค. พวกพ้อง ง. ความถูกต้อง
 
๑๓. คนถือธรรมเป็นใหญ่ มีลักษณะเช่นไร ?
  ก. เห็นแก่พวก ข. เห็นความถูกต้อง
  ค. เห็นประโยชน์ตน ง. เห็นความถูกใจ
 
๑๔. ปัญญาหยั่งรู้เหตุและผลตามความเป็นจริง เรียกว่าอะไร ?
  ก. ฌาน ข. ญาณ
  ค. สมาธิ ง. วิมุตติ
 
๑๕. ความอยากในข้อใด ไม่จัดเป็นกามตัณหา ?
  ก. อยากพ้นทุกข์ ข. อยากได้คำชม
  ค. อยากเห็นคนสวย ง. อยากรวยทรัพย์
 
๑๖. ข้อใด จัดเป็นภวตัณหา ?
  ก. อยากเป็นใหญ่ ข. อยากได้คำชม
  ค. อยากได้ของฝาก ง. อยากรวยทรัพย์
 
๑๗. ข้อบัญญัติเรื่องศีล จัดอยู่ในปิฎกใด ?
  ก. พระวินัย ข. พระสุตตันตะ
  ค. พระอภิธรรม ง. ถูกทุกข้อ
 
๑๘. ข้อใด จัดเป็นโลกัตถจริยา ?
  ก. โปรดสัตว์โลก ข. สงเคราะห์พระญาติ
  ค. ประกาศพระศาสนา ง. บัญญัติสิกขาบท
 
๑๙. ข้อใด จัดเป็นกรรมในวัฏฏะ ?
  ก. เกิดกิเลส ข. ทำกรรม
  ค. รับผลกรรม ง. เวียนว่ายตายเกิด
 
๒๐. เพราะเหตุใด มนุษย์จึงต้องเวียนว่ายตายเกิด ?
  ก. ทำกรรมชั่ว ข. มีโลกนี้โลกหน้า
  ค. รับผลกรรม ง. มีกิเลสกรรมวิบาก
 
๒๑. อธิสีลสิกขา ตรงกับข้อใด ?
  ก. ฝึกกาย วาจา ข. รักษาจิต
  ค. อบรมปัญญา ง. อบรมจิต
 
๒๒. ข้อใด เป็นลักษณะของอนิจจตา ?
  ก. คงทนถาวร ข. ไม่เที่ยงแท้
  ค. ทนได้อยาก ง. ไม่มีตัวตน
 
๒๓. พิจารณาแล้วอดกลั้น ควรใช้เมื่อถูกอะไรครอบงำ ?
  ก. ทุกขเวทนา ข. กิเลส
  ค. อกุศลวิตก ง. พยาบาท
 
๒๔. พิจารณาแล้วบรรเทา หมายถึงบรรเทาอะไร ?
  ก. ความหิว ข. ทุกขเวทนา
  ค. สิ่งเสพติด ง. อกุศลวิตก
 
๒๕. อัปปมัญญา มีอาการแผ่ไปอย่างไร ?
  ก. เจาะจง ข. มีขอบเขต
  ค. ไม่มีประมาณ ง. ไม่แน่นอน
 
๒๖. ทำจิตอย่างไร จึงจะไม่เกิดความริษยา ?
  ก. ให้อภัย ข. เห็นอกเห็นใจ
  ค. พลอยยินดี ง. วางเฉย
 
๒๗. ผู้กลับมาเกิดอีกชาติเดียว หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นใด ?
  ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
  ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
 
๒๘. การรักษากายวาจาเรียบร้อยดี ไม่มีโทษ จัดเป็นสัมปทาใด ?
  ก. สัทธาสัมปทา ข. สีลสัมปทา
  ค. จาคสัมปทา ง. ปัญญาสัมปทา
 
๒๙. ธรรมที่เป็นเหตุให้มีความสุขในภพหน้า ตรงกับข้อใด ?
  ก. สัมปรายิกัตถะ ข. ทิฏฐธัมมิกัตถะ
  ค. ปรมัตถะ ง. อธิษฐานธรรม
 
๓๐. มรรคใด ละกามราคะได้เด็ดขาด ?
  ก. โสดาปัตติมรรค ข. สกทาคามิมรรค
  ค. อนาคามิมรรค ง. อรหัตตมรรค
 
๓๑. พระพุทธเจ้าทรงแสดงอนุปุพพีกถา เพื่อประโยชน์ใด ?
  ก. ทำจิตให้หมดจด ข. กำจัดกิเลส
  ค. ละความตระหนี่ ง. ไม่เห็นแก่ตัว
 
๓๒. ก่อนแสดงอริยสัจ ๔ แก่คฤหัสถ์ผู้มีอุปนิสัย ทรงใช้ธรรมหมวดใด ?
  ก. อัปปมัญญา ข. อนุปุพพีกถา
  ค. อปัสเสนธรรม ง. บุญกิริยาวัตถุ
 
๓๓. ผู้มีจิตใจคับแคบ เป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะถูกอะไรครอบงำ ?
  ก. มัจฉริยะ ข. มาร
  ค. นิวรณ์ ง. อกุศล
 
๓๔. ความตระหนี่อะไร จัดเป็นลาภมัจฉริยะ ?
  ก. ที่อยู่ ข. สมบัติ
  ค. ตระกูล ง. ความรู้
 
๓๕. สิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากคุณความดี ตรงกับข้อใด ?
  ก. มัจฉริยะ ข. มาร
  ค. นิวรณ์ ง. อกุศล
 
๓๖. มารใด ตัดโอกาสของบุคคลที่จะก้าวหน้าต่อไปในคุณความดี ?
  ก. ขันธมาร ข. อภิสังขารมาร
  ค. มัจจุมาร ง. เทวปุตตมาร
 
๓๗. กิเลสที่ปิดกั้นจิตไม่ให้บรรลุความดี ตรงกับข้อใด ?
  ก. มัจฉริยะ ข. กิเลสกาม
  ค. นิวรณ์ ง. อกุศล
 
๓๘. ผู้ที่มีจิตเดือดดาล มืดมัว มองไม่เห็นบุญบาป เพราะถูกกิเลสใดครอบงำ ?
  ก. กามฉันท์ ข. พยาบาท
  ค. ถีนมิทธะ ง. วิจิกิจฉา
 
๓๙. สังขารในขันธ์ ๕ ตรงกับข้อใด ?
  ก. สิ่งที่ได้เห็น ข. สิ่งที่มากระทบ
  ค. สิ่งที่สัมผัสได้ ง. สิ่งที่ปรุงแต่งจิต
 
๔๐. ความรู้แจ้งอารมณ์ ในเวลาที่รูปมากระทบตาเป็นต้น เรียกว่าอะไร ?
  ก. เวทนา ข. สัญญา
  ค. สังขาร ง. วิญญาณ
 
๔๑. โทมนัสในเวทนา ๕ หมายถึงข้อใด ?
  ก. ทุกข์กาย ข. ทุกข์ใจ
  ค. สุขกาย ง. สุขใจ
 
๔๒. คนราคจริต ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. อสุภะ ข. พรหมวิหาร
  ค. อนุสสติ ง. อานาปานัสสติ
 
๔๓. คุณของพระธรรม ข้อว่า เอหิปสฺสิโก ตรงกับข้อใด ?
  ก. เห็นได้ด้วยตนเอง ข. ไม่จำกัดกาล
  ค. ควรเรียกให้มาดู ง. ควรน้อมเข้ามา
 
๔๔. ธรรมที่ให้ก่อให้เกิดความสามัคคี ตรงกับข้อใด ?
  ก. อปัสเสนธรรม ข. อปริหานิยธรรม
  ค. สัปปุริสธรรม ง. สาราณิยธรรม
 
๔๕. ข้อปฏิบัติอันพอดี ที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น ตรงกับข้อใด ?
  ก. มัชฌิมาปฏิปทา ข. บุญกิริยาวัตถุ
  ค. ทสบารมี ง. วิสุทธิ
 
๔๖. ผู้ไกลจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ตรงกับพุทธคุณข้อใด ?
  ก. อรหํ ข. สุคโต
  ค. พุทฺโธ ง. ภควา
 
๔๗. พระสงฆ์ได้ชื่อว่า สามีจิปฏิปนฺโน เพราะปฏิบัติเช่นไร ?
  ก. ปฏิบัติดี ข. ปฏิบัติตรง
  ค. ปฏิบัติเป็นธรรม ง. ปฏิบัติสมควร
 
๔๘. เป็นผู้ควรของทำบุญ ตรงกับสังฆคุณข้อใด ?
  ก. อาหุเนยฺโย ข. ปาหุเนยฺโย
  ค. ทกฺขิเณยฺโย ง. อญฺชลิกรณีโย
 
๔๙. การศึกษาธรรมเพื่อให้เกิดความรู้ จัดว่าบำเพ็ญบารมีใด ?
  ก. ปัญญาบารมี ข. วิริยบารมี
  ค. ขันติบารมี ง. สัจจบารมี
 
๕๐. บุญที่เกิดจากการปรับความเห็นให้ตรงและถูกต้อง ตรงกับข้อใด ?
  ก. อปจายนมัย ข. เวยยาวัจจมัย
  ค. ปัตติทานมัย ง. ทิฏฐุชุกัมม์
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  สนามหลวงแผนกธรรม ปัญหาและเฉลยข้อสอบ พ.ศ.๒๕๖๐. หน้า
สำเนาข้อสอบจริง สอบวันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐.
 

ข้อสอบสนามหลวง