ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันอังคาร ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. ข้อใดเป็นความหมายของคำว่า สมถะ ?
  ก. อุบายเรืองปัญญา ข. อุบายสงบกาย
  ค. อุบายสงบใจ ง. อุบายสงบวาจา
 
๒. จะรู้แจ้งสรรพสิ่งตามเป็นจริง ต้องเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
  ก. อนุสสติกัมมัฏฐาน ข. สมถกัมมัฏฐาน
  ค. วิปัสสนากัมมัฏฐาน ง. อสุภกัมมัฏฐาน
 
๓. ผู้ลุ่มหลงอยู่กับการเล่นเกมส์ เพราะถูกกิเลสกามข้อใดครอบงำ ?
  ก. โลภะ ข. โทสะ
  ค. โมหะ ง. อรติ
 
๔. กามเป็นเหตุให้สัตว์หลงติดอยู่ในโลก เรียกว่าอะไร ?
  ก. กามาสวะ ข. กามคุณ
  ค. กามกิเลส ง. กามตัณหา
 
๕. การนำดอกไม้ไปไหว้พระพุทธรูป จัดเป็นการบูชาประเภทใด ?
  ก. สักการะบูชา ข. พุทธบูชา
  ค. ปฏิบัติบูชา ง. อามิสบูชา
 
๖. ปูชนียบุคคล ในเรื่องบูชา ๒ หมายถึงบุคคลประเภทใด ?
  ก. คนร่ำรวยทรัพย์ ข. คนปฏิบัติตามกฎหมาย
  ค. คนวางตนน่ายกย่อง ง. คนเรียนจบระดับสูง
 
๗. เมื่อมีผู้มาเยือน ควรต้อนรับตามหลักปฏิสันถารอย่างไร ?
  ก. ถามถึงธุระที่มาเยือน ข. ถามถึงสิ่งที่ต้องการ
  ค. แนะนำประโยชน์ให้ ง. ต้อนรับให้สมแก่ฐานะ
 
๘. การต้อนรับผู้มาเยือนข้อใด เรียกว่า ธรรมปฏิสันถาร ?
  ก. มอบหนังสือธรรมะให้ ข. ชวนให้ปฏิบัติธรรม
  ค. มอบพระเครื่องให้ ง. กล่าวธรรมให้ฟัง
 
๙. ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ สงเคราะห์เข้าในสุขข้อใด ?
  ก. สุขทางกาย ข. สุขทางใจ
  ค. สุขอิงอามิส ง. สุขไม่อิงอามิส
 
๑๐. เมื่อเกิดกามวิตกขึ้น จะมีพฤติกรรมเช่นใด ?
  ก. อยากได้ของผู้อื่น ข. อยากเป็นใหญ่เป็นโต
  ค. อยากมีชื่อเสียง ง. อยากให้คนยกย่อง
 
๑๑. ผู้มีเนกขัมมวิตก มักมีความคิดเช่นใด ?
  ก. คิดออกบวช ข. คิดเข้าวัดฟังธรรม
  ค. คิดบริจาคทาน ง. คิดรักษาศีลอุโบสถ
 
๑๒. การครุ่นคิดวางแผนใส่ร้ายผู้อื่น จัดเป็นอกุศลวิตกข้อใด ?
  ก. กามวิตก ข. พยาบาทวิตก
  ค. วิหิงสาวิตก ง. อวิหิงสาวิตก
 
๑๓. อาการหงุดหงิดเกิดขึ้นในใจ จัดเป็นไฟชนิดใด ?
  ก. ไฟสุ่มทรวง ข. ไฟริษยา
  ค. ไฟโทสะ ง. ไฟโมหะ
 
๑๔. พฤติกรรมเช่นใด จัดเป็นลักษณะของไฟคือราคะ ?
  ก. ล่วงละเมิดทางเพศ ข. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
  ค. แสดงอารยะขัดขืน ง. แสดงความหึงหวง
 
๑๕. พฤติกรรมเช่นใด จัดเป็นลักษณะของไฟคือโมหะ ?
  ก. ไม่มีระเบียบวินัย ข. ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
  ค. ไม่มีสมบัติผู้ดี ง. ไม่รับผิดชอบหน้าที่
 
๑๖. ประชาธิปไตยไม่พัฒนา เพราะขาดอธิปเตยยะข้อใด ?
  ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
  ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. อนาธิปเตยยะ
 
๑๗. การปกครองที่ถือเสียงข้างมาก จัดเข้าในข้อใด ?
  ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
  ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. อนาธิปเตยยะ
 
๑๘. ปัญญาหยั่งรู้ว่า การเกิดเป็นทุกข์ จัดเป็นญานอะไร ?
  ก. สัจจญาณ ข. กิจจญาณ
  ค. กตญาณ ง. มัคคญาณ
 
๑๙. แย่งอำนาจกันครอง จัดเป็นตัณหาชนิดใด ?
  ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
  ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
 
๒๐. ไม่อยากแก่ ไม่อยากตาย จัดเป็นตัณหาประเภทใด ?
  ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
  ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
 
๒๑. เกรดตกอกหกรักคุด แล้วฆ่าตัวตาย จัดเป็นตัณหาประเภทใด ?
  ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
  ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
 
๒๒. พระพุทธเจ้าทรงยกย่องปาฏิหาริยะประเภทใด ?
  ก. อิทธิปาฏิหาริยะ ข. อาเทสนาปาฏิหาริยะ
  ค. ยมกปาฏิหาริยะ ง. อนุสาสนีปาฏิหาริยะ
 
๒๓. ข้อใด เป็นอำนาจอัศจรรย์ของอาเทสนาปาฏิหาริย์ ?
  ก. ล่องหนได้ ข. ทายใจคนได้
  ค. ดำดินได้ ง. เหยียบน้ำทะเลจืด
 
๒๔. การสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จัดเข้าในข้อใด ?
  ก. โลกัตถจริยา ข. ญาตัตถจริยา
  ค. พุทธัตถจริยา ง. ธัมมจริยา
 
๒๕. ข้อใด เป็นการเวียนว่ายตายเกิด ?
  ก. กิเลสตัณหา ข. กิเลส กรรม วิบาก
  ค. ทำความชั่วไว้ ง. ต้องรับผลกรรม
 
๒๖. ข้อใด เป็นความหมายของคำว่า สิกขา ในพระพุทธศาสนา ?
  ก. ศึกษาเล่าเรียน ข. ฝึกซ้อมภาคปฏิบัติ
  ค. ฝึกหัดกาย วาจา ใจ ง. ฝึกหัดทำสมาธิ
 
๒๗. อานิสงส์ของการปฏิบัติไตรสิกขา คือข้อใด ?
  ก. กำจัดทุกข์ ข. กำจัดโศก
  ค. กำจัดภัย ง. กำจัดกิเลส
 
๒๘. ภูมิอันหาความเจริญมิได้ เรียกว่าอะไร ?
  ก. อสูรกายภูมิ ข. นรกภูมิ
  ค. อบายภูมิ ง. ดิรัจฉานภูมิ
 
๒๙. คบคนพาล พาลพาไปหาผิด ควรใช้อปัสเสนธรรมข้อใด ?
  ก. พิจารณาแล้วเสพ ข. พิจารณาแล้วเว้น
  ค. พิจารณาแล้วอดกลั้น ง. พิจารณาแล้วบรรเทา
 
๓๐. เมตตา ควรแผ่ให้บุคคลจำพวกใด ?
  ก. ทุกจำพวก ข. ผู้ประสบทุกข์
  ค. ผู้ประสบสุข ง. ผู้ที่ตายแล้ว
 
๓๑. กรุณา ควรแผ่ให้บุคคลจำพวกใด ?
  ก. ทุกจำพวก ข. ผู้ประสบทุกข์
  ค. ผู้ประสบสุข ง. ผู้ที่ตายแล้ว
 
๓๒. โสดาบันบุคคล ได้แก่บุคคลประเภทใด ?
  ก. ผู้สิ้นกิเลส ข. ผู้ห่างไกลกิเลส
  ค. ผู้ไม่กลับมาเกิดอีก ง. ผู้ถึงกระแสนิพพาน
 
๓๓. ผู้ละกามราคะ และปฏิฆะได้เด็ดขาด คือใคร ?
  ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
  ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
 
๓๔. เทศนาที่ขัดเกลาจิตมิให้เป็นคนหยาบกระด้าง ตรงกับข้อใด ?
  ก. ทานกถา ข. สีลกถา
  ค. สัคคกถา ง. กามทีนวกถา
 
๓๕. ผู้ประกอบด้วยวัณณมัจฉริยะ มีพฤติกรรมเช่นใด ?
  ก. หวงแหนตระกูล ข. กลัวคนอื่นได้ดีกว่า
  ค. เห็นแก่ตัว ง. หาผลประโยชน์ใส่ตัว
 
๓๖. อาการปวดศีรษะ จัดเป็นมารประเภทใด ?
  ก. กิเลสมาร ข. ขันธมาร
  ค. อภิสังขารมาร ง. เทวปุตตมาร
 
๓๗. มารที่ครอบงำบุคคลให้ประกอบทุจริตคิดมิชอบ ตรงกับข้อใด ?
  ก. กิเลสมาร ข. ขันธมาร
  ค. อภิสังขารมาร ง. เทวปุตตมาร
 
๓๘. ความดีใจที่ได้รับเหรียญรางวัล จัดเป็นเวทนาใด ?
  ก. สุขเวทนา ข. อุเบกขาเวทนา
  ค. โสมนัสเวทนา ง. โทมนัสเวทนา
 
๓๙. เชื่อข่าวลือ ถือมงคล ตื่นข่าว จัดว่าเป็นคนมีจริตอะไร ?
  ก. โมหจริต ข. วิตักกจริต
  ค. สัทธาจริต ง. พุทธิจริต
 
๔๐. คิดหนัก มักระแวง จิตฟุ้งซ่าน จัดว่าเป็นคนมีจริตอะไร ?
  ก. ราคจริต ข. โทสจริต
  ค. โมหจริต ง. วิตักกจริต
 
๔๑. บุคคลเข้าใจซาบซึ้งพระธรรมเฉพาะตนเอง ตรงกับข้อใด ?
  ก. สนฺทิฏฺฐิโก ข. อกาลิโก
  ค. เอหิปสฺสิโก ง. ปจฺจตฺตํ
 
๔๒. การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ตรงกับวิสุทธิข้อใด ?
  ก. สีลวิสุทธิ ข. จิตตวิสุทธิ
  ค. ทิฏฐิวิสุทธิ ง. กังขาวิตรณวิสุทธิ
 
๔๓. ความหมดจดแห่งจิต ตรงกับวิสุทธิข้อใด ?
  ก. จิตตวิสุทธิ ข. ญาณทัสสนวิสุทธิ
  ค. ทิฏฐิวิสุทธิ ง. กังขาวิตรณวิสุทธิ
 
๔๔. ข้อใด ไม่ใช่ความหมายของอวิชชา ?
  ก. ไม่รู้จักเหตุแห่งทุกข์ ข. ไม่รู้จักกฎแห่งกรรม
  ค. ไม่รู้หลักวิชาการ ง. ไม่รู้จักอดีตอนาคต
 
๔๕. คำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ตรงกับพุทธคุณข้อใด ?
  ก. อรหํ ข. พุทฺโธ
  ค. โลกวิทู ง. ภควา
 
๔๖. พระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เป็นพุทธคุณข้อใด ?
  ก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ข. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
  ค. สุคโต โลกวิทู ง. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ
 
๔๗. สังฆคุณข้อว่า อญฺชลิกรณีโย มีความหมายว่าอย่างไร ?
  ก. ควรแก่ของคำนับ ข. ควรแก่การต้อนรับ
  ค. ควรแก่ของทำบุญ ง. ควรแก่การกราบไหว้
 
๔๘. ข้อใดเป็นความหมายของคำว่า บารมี ในพระพุทธศาสนา ?
  ก. แผ่ขยายอิทธิพล ข. สั่งสมบริวาร
  ค. มีอำนาจวาสนา ง. มีคุณธรรมยวดยิ่ง
 
๔๙. ผู้บริจาคดวงตาให้บุคคลอื่น จัดเป็นบารมีระดับใด ?
  ก. ทานบารมี ข. ทานอุปบารมี
  ค. ทานปรมัตถบารมี ง. เมตตาบารมี
 
๕๐. ผู้ประสบอุบัติเหตุตายก่อนวัยอันควร เพราะกรรมใดให้ผล ?
  ก. ครุกรรม ข. อุปฆาตกกรรม
  ค. อุปปีกกรรม ง. อาสันนกรรม
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๑. หน้า ๑๗๘-๑๘๖.
         

ข้อสอบสนามหลวง