ปัญหาและเฉลย
วิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. ผู้หมั่นเจริญกัมมัฏฐาน ย่อมได้รับประโยชน์อย่างไร ?
  ก. มีสุขภาพดี ข. ทำงานอย่างมีสติ
  ค. นอนหลับง่าย ง. ผิวพรรณผ่องใส
 
๒. ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน ควรเลือกสถานที่เช่นไร ?
  ก. ในอุโบสถ ข. ป่าช้า
  ค. ที่สงบเงียบ ง. ที่ใดก็ได้
 
๓. ข้อใดเป็นอาการเบื้องต้นในการเจริญอานาปานสติ ?
  ก. นั่งกายตรงกำหนดลม ข. นั่งกายตรงภาวนา “พุทโธ”
  ค. นั่งกายตรงพิจารณาลม ง. นั่งกายตรงดำรงสติมั่น
 
๔. ผลของการเจริญวิปัสสนาเบื้องต้นคืออะไร ?
  ก. จิตผ่องใส ข. ความจำดี
  ค. มีเหตุผล ง. รู้อดีตอนาคต
 
๕. การเจริญวิปัสสนา เป็นเหตุให้รู้แจ้งอะไร ?
  ก. สภาวธรรม ข. คำสั่งสอน
  ค. อภิญญา ง. ไตรเพท
 
๖. ผลสูงสุดแห่งการเจริญวิปัสสนา คือข้อใด ?
  ก. ละนิวรณ์ได้ ข. ละกามคุณได้
  ค. ละความยึดมั่นได้ ง. สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
 
๗. สิ่งที่ทำให้สัตว์ต้องข้องอยู่ในโลก เรียกว่าอะไร ?
  ก. กาม ข. กิเลส
  ค. ภพ ง. ชาติ
 
๘. ข้อใด ไม่ใช่กิเลสกาม ?
  ก. ราคะ ข. โทสะ
  ค. อิจฉา ง. อิสสา
 
๙. ข้อใด เป็นปฏิบัติบูชาแท้จริง ?
  ก. ตักบาตรทุกเช้า ข. ถวายสังฆทานทุกวัน
  ค. ฟังเทศน์เป็นประจำ ง. ทำความดีตลอดเวลา
 
๑๐. คำว่า “ทำให้ชีวิตก้าวหน้า พาไปสู่สวรรค์ ป้องกันภัยพิบัติ
กำจัดสรรพกิเลส
” เป็นอานิสงส์ของข้อใด ?
  ก. กัมมัฏฐาน ข. ทาน
  ค. ศีล ง. บูชา
 
๑๑. ผู้มีปฏิสันถารดี ย่อมมีบุคลิกภาพเช่นไร ?
  ก. ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่ม ข. กล่าวธรรมให้ฟัง
  ค. ใจเย็น หน้ายิ้ม อารมณ์ดี ง. หัวเราะอยู่เสมอ
 
๑๒. ผู้ทำการต้อนรับในข้อใด ชื่อว่าปฏิบัติธรรมปฏิสันถาร ?
  ก. ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่มเป็นต้น ข. ต้อนรับตามสมควรแก่ฐานะ
  ค. ต้อนรับโดยการแนะนำ
ประโยชน์ให้
ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก
 
๑๓. เจตสิกสุข คือสุขทางใจ มีลักษณะเช่นไร ?
  ก. สุขเพราะได้ลาภลอย ข. สุขเพราะได้รับมรดก
  ค. สุขเพราะได้เลื่อนยศ ง. สุขเพราะไม่ถูกกิเลสครอบงำ
 
๑๔. คนถูกกามวิตกครอบงำ มักมีพฤติกรรมเช่นไร ?
  ก. อยากได้ของคนอื่น ข. ถ่ายรูปอนาจาร
  ค. วางแผนต้มตุ๋น ง. ถูกทุกข้อ
 
๑๕. พฤติกรรมฆ่ารายวัน สงเคราะห์เข้าในอกุศลวิตกใด ?
  ก. กามวิตก ข. พยาบาทวิตก
  ค. วิหิงสาวิตก ง. ข้อ ข.และข้อ ค.ถูก
 
๑๖. ความดำริในเรื่อง “สมานฉันท์” จัดเป็นกุศลวิตกใด ?
  ก. เนกขัมมวิตก ข. อัพยาบาทวิตก
  ค. อวิหิงสาวิตก ง. ถูกทุกข้อ
 
๑๗. ความดำริให้อภัยมีเมตตาไม่เบียดเบียนกัน เป็นกุศลวิตกใด ?
  ก. เนกขัมมวิตก ข. อัพยาบาทวิตก
  ค. อวิหิงสาวิตก ง. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก
 
๑๘. ผู้มีพฤติกรรมเช่นใด ชื่อว่าถูกไฟคือโมหะแผดเผา ?
  ก. ข่มขืนแล้วฆ่า ข. หงุดหงิดฉุนเฉียว
  ค. ยกพวกตีกัน ง. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอหวย
 
๑๙. เหตุใด ราคะ โทสะ โมหะ จึงเรียกว่าไฟ ?
  ก. เพราะทำให้เครียด ข. เพราะทำให้ใจเร่าร้อน
  ค. เพราะทำให้กายร้อน ง. เพราะทำให้เกิดโรค
 
๒๐. ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์ ต้องมีธรรมอะไรเป็นพื้นฐาน ?
  ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
  ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. ข้อ ข. และข้อ ค.รวมกัน
 
๒๑. เผด็จการทุกรูปแบบ ตรงกันข้ามกับอธิปเตยยะใด ?
  ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
  ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๒. แย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันพิศวาส
แย่งอำนาจกันครอง
” จัดเป็นตัณหาอะไร ?
  ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
  ค. วิภวตัณหา ง. กามตัณหาและภวตัณหา
 
๒๓. ความอยากได้อิฏฐารมณ์ เรียกว่าอะไร ?
  ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
  ค. วิภวตัณหา ง. กิเลสตัณหา
 
๒๔. ปฏิบัติอย่างไร ชื่อว่าปฏิบัติครบทั้ง ๓ ปิฎก ?
  ก. รักษากายไม่ให้วิปริต ข. รักษาจิตอย่าให้วิปลาส
  ค. วาจามีศีลสุขล้ำ ง. ทั้ง ๓ ข้อรวมกัน
 
๒๕. วัฏฏะ วนหรือหมุน หมายเอาอาการเช่นไร ?
  ก. การหมุนไปแห่งธรรม ข. การเวียนศพรอบเมรุ
  ค. การแก่ เจ็บ ตาย ง. การเวียนว่ายตายเกิด
 
๒๖. กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง” ตรงกับวัฏฏะข้อใด ?
  ก. กิเลส ข. กรรม
  ค. วิบาก ง. สงสาร
 
๒๗. ผู้ถือว่า “แมว ๕ หมา ๖” เลี้ยงไว้เป็นอัปมงคล ต้องนำไปปล่อยวัด
จัดเป็นคนจริตอะไร ?
  ก. สัทธาจริต ข. โมหจริต
  ค. พุทธิจริต ง. ราคจริต
 
๒๘. ข้อใด เป็นความหมายที่แท้จริงของสิกขา ๓ ?
  ก. การศึกษาเล่าเรียนทั่วไป ข. การเรียนพระพุทธพจน์
  ค. การฝึกฝนพัฒนา ง. การท่องจำพระไตรปิฎกได้
 
๒๙. สาระสำคัญของการศึกษาสิกขา ๓ คืออะไร ?
  ก. ทำให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ข. ทำให้โลกสงบร่มเย็น
  ค. ทำให้โลกเจริญก้าวหน้า ง. ทำให้โลกทันสมัย
 
๓๐. เหตุใด คนสมัยนี้จึงคอร์รัปชั่นมากขึ้นทุกวัน ?
  ก. เพราะกิเลสมาก ข. เพราะบาปมาก
  ค. เพราะตัณหามาก ง. เพราะโลภมาก
 
๓๑. พิจารณาแล้วอดกลั้น ตรงกับข้อใด ?
  ก. งดเหล้าเข้าพรรษา ข. เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
  ค. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ง. เวรระงับด้วยการไม่จองเวร
 
๓๒. ทำอย่างไร จึงจะไม่ริษยาผู้อื่น ?
  ก. หมั่นแผ่เมตตา ข. หมั่นแผ่กรุณา
  ค. หมั่นเจริญมุทิตา ง. หมั่นเจริญอุเบกขา
 
๓๓. อัปปมัญญาข้อใด เป็นคุณให้เกิดความเที่ยงธรรม ?
  ก. เมตตา ข. กรุณา
  ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
 
๓๔. เมื่อมีคนอื่นโกรธเรา ควรปฏิบัติอย่างไร ?
  ก. ไม่โกรธตอบ ข. แผ่เมตตาให้เสมอ
  ค. หมั่นทำดีไว้ ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๕. พุทธบริษัทเช่นไร ควรเรียกว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” ?
  ก. เชื่อเรื่องทรงเจ้าเข้าผี ข. เชื่อเรื่องเสน่ห์ยาแฝด
  ค. เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๖. ผู้ใดอุปมาเหมือนดอกบัวเสมอน้ำ จักบานในวันพรุ่ง ?
  ก. ผู้พอแนะนำได้ ข. ผู้รู้ธรรมพอยกหัวข้อแสดง
  ค. ผู้จำได้เฉพาะบท ง. ผู้รู้ธรรมเมื่ออธิบายความ
 
๓๗. ในอนุปุพพีกถา ทรงยกทานกถาขึ้นแสดงก่อน เพื่อพระประสงค์์ใด ?
  ก. เพื่อสละความเห็นแก่ตัว ข. เพื่อเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
  ค. เพื่อขจัดความตระหนี่ ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๘.

บูชาพระคุณ ค้ำจุนพระศาสนา พาสู่ความสงบ จบแค่นิพพาน
เป็นอนุปุพพีกถาข้อใด ?

  ก. ทานกถา ข. ศีลกถา
  ค. สัคคกถา ง. เนกขัมมานิสังสกถา
 
๓๙. โตงเตงโตงเต้า กินแต่ของเขา ของเราเก็บไว้” เป็นพฤติกรรม
ของคนเช่นไร ?
  ก. คนตระหนี่ ข. คนเห็นแก่ตัว
  ค. คนประหยัด ง. คนมักน้อย
 
๔๐. ข้อใด เป็นอาวาสมัจฉริยะ ?
  ก. รังเกียจคนต่างชาติ ข. ไม่อยากแต่งงานด้วย
  ค. หวงแหนศิลปวิทยา ง. ไม่อยากให้คนอื่นดีกว่า
 
๔๑. เกิดโรคร้าย จนเป็นเหตุถึงกับฆ่าตัวตาย เพราะถูกมารใดครอบงำ ?
  ก. มารคือปัญจขันธ์ ข. มารคือกิเลส
  ค. มารคือความตาย ง. มารคือเทวบุตร
 
๔๒. ฆ่ากันทุกวันเพื่อเอาชนะ เป็นพฤติกรรมของคนจริตอะไร ?
  ก. คนโทสจริต ข. คนโมหจริต
  ค. คนวิตักกจริต ง. คนสัทธาจริต
 
๔๓. เมื่อผู้น้อยไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา จึงโกรธนินทาผู้ใหญ่
เพราะมีจริตอะไร ?
  ก. ราคจริต ข. โทสจริต
  ค. โมหจริต ง. ทั้ง ๓ จริตระคนกัน
 
๔๔. วิชาเป็นอำนาจ มารยาทเป็นเสน่ห์” สงเคราะห์เข้าในข้อใด ?
  ก. อรหํ ข. สมฺมาสมฺพุทฺโธ
  ค. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ง. สุคโต
 
๔๕. พระสงฆ์ปฏิบัติอย่างไร จึงเป็นนาบุญยอดเยี่ยมของโลก ?
  ก. เป็นผู้ปฏิบัติดี ข. เป็นผู้ควรของคำนับ
  ค. เป็นผู้ควรของต้อนรับ ง. เป็นผู้ควรของทำบุญ
 
๔๖. ตั้งใจเลิกสิ่งเสพติด งดเหล้าเข้าพรรษา ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด ?
  ก. ขันติบารมี ข. ศีลบารมี
  ค. อธิษฐานบารมี ง. อุเบกขาบารมี
 
๔๗. เมื่อชีวิตเกิดอุปสรรค ตั้งใจว่า “ชีวิตยังมีอยู่ ต้องสู้ต่อไป
ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด ?
  ก. ขันติบารมี ข. วิริยบารมี
  ค. เมตตาบารมี ง. สัจจบารมี
 
๔๘. ยามบุญมาวาสนาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก” ตรงกับข้อใด ?
  ก. กุศลชนกกรรม ข. กุศลอุปัตถัมภกกรรม
  ค. กุศลอาสันนกรรม ง. กุศลอาจิณณกรรม
 
๔๙. ยังไม่ถึงที่ตายไม่วายชีวาวาตม์ ....” เพราะกรรมใดกำลังให้ผล ?
  ก. ชนกกรรม ข. อุปัตถัมภกกรรม
  ค. อาสันนกรรม ง. พหุลกรรม
 
๕๐. อโหสิกรรม ในคำว่า “รดน้ำศพอโหสิกรรมแก่ผู้ตาย
หมายความว่าอย่างไร ?
  ก. ให้อภัยไม่จองเวร ข. ขอให้ไปสู่ที่ชอบ
  ค. อย่ามีทุกข์เลย ง. หมดกรรมเสียที
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๘. หน้า
         

ข้อสอบสนามหลวง