ปัญหาและเฉลย
วิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่ออะไร ?
  ก. เป็นศาสดาสร้างสันติภาพ ข. เป็นศาสดาคุ้มครองโลก
  ค. เป็นศาสดาสร้างโลก ง. เป็นศาสดาสอนเวไนยสัตว์
 
๒. ปัญจมหาวิโลกนะที่พระบมโพธิสัตว์ทรงพิจารณา คือข้อใด ?
  ก. แคว้น เมือง ชนบท
สกุล มารดา
ข. ประเทศ บิดา มารดา
อายุ สกุล
  ค. กาล ทวีป ประเทศ
สกุล มารดา
ง. ประเทศ สกุล มารดา
วรรณะ ศาสนา
 
๓. ชาวชมพูทวีปมีทิฏฐิมานะกล้า มักรังเกียจกันด้วยเหตุใด ?
  ก. เกียรติยศ ข. วิชาความรู้
  ค. ชาติและโคตร ง. ฐานะความเป็นอยู่
 
๔. ตามลัทธิพราหมณ์ เชื่อว่าผู้ไม่มีบุตรชายตายแล้วจะมีคติอย่างไร ?
  ก. ขาดสูญ ข. ตกนรก
  ค. เกิดในสุคติ ง. คติไม่แน่นอน
 
๕. ข้อใด กล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกรุงกบิลพัสดุ์ ?
  ก. เคยเป็นสถานที่อยู่ของ
กบิลดาบส
ข. พระเจ้าสุทโธทนะโปรดให้
สร้างขึ้น
  ค. พระเจ้าโอกกากราชทรง
ครอบครอง
ง. พระเจ้าโอกกากราชโปรดให้
สร้างขึ้น
 
๖. พระมารดาของพระนางพิมพา มีพระนามว่าอะไร ?
  ก. พระนางปชาบดี ข. พระนางปมิตา
  ค. พระนางกีสาโคตมี ง. พระนางอมิตา
 
๗. ราหุลํ ชาตํ มีความหมายว่าอย่างไร ?
  ก. หมดบ่วงแล้ว ข. หมดห่วงแล้ว
  ค. บ่วงเกิดแล้ว ง. ละบ่วงแล้ว
 
๘. การนึกถึง ชรา พยาธิ และมรณะเป็นเหตุให้บรรเทาอะไร ?
  ก. อกุศลวิตก ๓ ข. ความเมา ๓
  ค. ตัณหา ๓ ง. อกุศลมูล ๓
 
๙. พระมหาบุรุษทรงหาอุบายแก้ความเมา ๓ ประการ ด้วยวิธีใด ?
  ก. ทรงศึกษาไตรเพท ข. ประทับในปราสาท
  ค. เสด็จออกบรรพชา ง. เสด็จออกประพาสป่า
 
๑๐. พระมหาบุรุษ ทรงบำเพ็ญอปาณกฌานอย่างไร ?
  ก. กลั้นลมหายใจ ข. นอนบนหนาม
  ค. เอาลิ้นกดเพดาน ง. อดอาหาร
 
๑๑. ข้อใด ไม่ใช่บารมี ๑๐ ที่พระมหาบุรุษใช้ต่อสู้กับกิเลสมาร ?
  ก. ทาน ข. ศีล
  ค. สมาธิ ง. ปัญญา
 
๑๒. พระมหาบุรุษบรรลุอาสวักขยญาณ ทำให้ได้พระนามอะไร ?
  ก. ภควา ข. อรหํ
  ค. สุคโต ง. โลกวิทู
 
๑๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาทที่ร่มไม้ใด ?
  ก. พระศรีมหาโพธิ์ ข. ราชายตนะ
  ค. อชปาลนิโครธ ง. มุจลินท์
 
๑๔. ผู้ที่สามารถเข้าใจได้ ต่อเมื่อคนอื่นอธิบายความ ตรงกับข้อใด ?
  ก. อุคฆฏิตัญญู ข. วิปจิตัญญู
  ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ
 
๑๕. พระยสะบรรลุอรหัตผล เพราะฟังธรรมเทศนาอะไร ?
  ก. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ข. อนัตตลักขณสูตร
  ค. อาทิตตปริยายสูตร ง. อนุปุพพีกถาและอริยสัจ
 
๑๖. เรื่องที่กล่าวถึงการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย ชื่อว่าอะไร ?
  ก. ทานกถา ข. สีลกถา
  ค. สัคคกถา ง. กามาทีนวกถา
 
๑๗. คำว่า อุบาสกอุบาสิกา มีความหมายว่าอย่างไร ?
  ก. ผู้นั่งใกล้พระพุทธ ข. ผู้นั่งใกล้พระธรรม
  ค. ผู้นั่งใกล้พระสงฆ์ ง. ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย
 
๑๘. ความปรารถนาข้อที่ ๕ ของพระเจ้าพิมพิสาร ว่าอย่างไร ?
  ก. ขอพระอรหันต์มาสู่แว่นแคว้น
ของเรา
ข. ขอพระอรหันต์แสดงธรรม
แก่เรา
  ค. ขอให้เราได้รู้ทั่วถึงธรรมของ
พระอรหันต์
ง. ขอให้เราได้เข้าไปนั่งใกล้
พระอรหันต์
 
๑๙. ข้อใด เป็นใจความย่อของอาทิตตปริยายสูตร ?
  ก. สิ่งทั้งปวงเป็นทุกข์ ข. สิ่งทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง
  ค. สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา ง. สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน
 
๒๐. พระองค์เป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก ใครกล่าว ?
  ก. พระมหากัสสปะ ข. พระคยากัสสปะ
  ค. พระอุรุเวลกัสสปะ ง. พระนทีกัสสปะ
 
๒๑. พระศาสนาแผ่ไปเร็ว เพราะพระพุทธเจ้าทรงประกาศในกลุ่มชนใด ?
  ก. เศรษฐี ข. สามัญชน
  ค. นักบวชด้วยกัน ง. เจ้าลัทธิและชนชั้นปกครอง
 
๒๒. พุทธประสงค์หลักที่ส่งสาวกไปประกาศพระศาสนา คืออะไร ?
  ก. เพื่อเผยแผ่พระศาสนา ข. เพื่อทำให้โลกร่มเย็น
  ค. เพื่อให้มหาชนหมดกิเลส ง. เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชน
 
๒๓. อุปติสสะและโกลิตะไปดูมหรสพ คิดอย่างไรจึงออกบวช ?
  ก. สิ่งเหล่านี้เป็นมายา ข. คนพวกนี้หลงละเลิงในกิเลส
  ค. คนพวกนี้ไม่ถึงร้อยปีก็ตาย ง. คนพวกนี้หลอกลวงพวกเรา
 
๒๔. เจ้าชายศากยะทั้ง ๖ ให้อุบาลีบวชก่อน เพราะเหตุใด ?
  ก. พระประสงค์ของพระพุทธเจ้า ข. ต้องการลดทิฐิมานะ
  ค. ความประสงค์ของอุบาลี ง. ให้ผู้มีอายุมากบวชก่อน
 
๒๕. เมื่อภิกษุทูลลาพระศาสดาเพื่อจาริกไปที่อื่น ทรงรับสั่งให้ไปลาพระสารีบุตร
เพื่อประโยชน์ใด ?
  ก. เรียนกัมมัฏฐาน ข. ให้ช่วยสั่งสอน
  ค. เรียนมนต์ ง. หาเพื่อนเดินทาง
 
๒๖. ใครได้รับยกย่องว่า เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้มีความกตัญญูกตเวที ?
  ก. พระราหุล ข. พระสารีบุตร
  ค. พระอานนท์ ง. พระอุบาลี
 
๒๗. พระอานนท์ได้ดวงตาเห็นธรรม เพราะได้ฟังธรรมจากใคร ?
  ก. พระพุทธเจ้า ข. พระสารีบุตร
  ค. พระปุณณมันตานีบุตร ง. พระอัสสชิ
 
๒๘. ธรรมุเทศ ๔ ใครแสดงแก่ใคร ?
  ก. พระสารีบุตรแสดงแก่พระเจ้า
พิมพิสาร
ข. พระอานนท์แสดงแก่พระเจ้า
ปเสนทิโกศล
  ค. พระรัฐบาลแสดงแก่พระเจ้า
โกรัพยะ
ง. พระมหากัจจายนะแสดงแก่
พระเจ้าจัณฑปัชโชต
 
๒๙. ธรรมนี้เป็นของผู้มีสติตั้งมั่น ไม่ใช่ของผู้มีสติหลงลืม เป็นความตรึกของ
พระสาวกรูปใด ?
  ก. พระอุบาลี ข. พระอนุรุทธะ
  ค. พระอานนท์ ง. พระภัททิยะ
 
๓๐. ตัณหักขยธรรม ธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา ทรงแสดงที่ไหน ?
  ก. ถ้ำสุกรขาตา ข. อิสิปตนมฤคทายวัน
  ค. วัดเวฬุวัน ง. กัลลวาลมุตตคาม
 
๓๑. พระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงสดับธรรมครั้งแรกจากใคร ?
  ก. พระพุทธเจ้า ข. พระมหากัจจายนะ
  ค. พระมหาโมคคัลลานะ ง. พระมหากัสสปะ
 
๓๒. พระเถระรูปใด ตัดสินอธิกรณ์ของภิกษุณีมารดาพระกุมารกัสสปะ ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระมหาโมคคัลลานะ
  ค. พระสีวลี ง. พระอุบาลี
 
๓๓. ข้อใด เรียกว่าปฏิปุจฉาพยากรณ์ ?
  ก. ย้อนถามแล้วจึงแก้ปัญหา ข. แยกปัญหาแก้ทีละข้อ
  ค. แก้ปัญหานั้นโดยส่วนเดียว ง. ระงับไม่แก้ปัญหานั้น
 
๓๔. อะไรเป็นภัยใหญ่ของสัตว์โลก พระพุทธเจ้าตรัสตอบอชิตมาณพว่าอย่างไร ?
  ก. ลาภเป็นภัยใหญ่ ข. ทุกข์เป็นภัยใหญ่
  ค. ยศเป็นภัยใหญ่ ง. ความโกรธเป็นภัยใหญ่
 
๓๕. พระนางปชาบดี แสดงความตั้งใจจะบวชด้วยวิธีใด ?
  ก. อดพระกระยาหาร ข. กลั้นลมหายใจ
  ค. นั่งประท้วง ง. ตัดพระเมาลี
 
๓๖. พระเขมาเถรีได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
  ก. มีปัญญามาก ข. มีฤทธิ์มาก
  ค. ชำนาญสมาบัติ ง. มีความเพียรมาก
 
๓๗. อัครสาวิกาซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า คือใคร ?
  ก. อุบลวรรณาเถรี รูปนันทาเถรี ข. อุบลวรรณาเถรี เขมาเถรี
  ค. เขมาเถรี ปฏาจาราเถรี ง. ธัมมทินนาเถรี รูปนันทาเถรี
 
๓๘. พระสาวกรูปใด อยู่ในครรภ์มารดานานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ?
  ก. พระอุบาลี ข. พระสีวลี
  ค. พระวักกลิ ง. พระโสภิตะ
 
๓๙. ความแตกฉานในภาษา เรียกว่าอะไร ?
  ก. ธัมมปฏิสัมภิทา ข. อัตถปฏิสัมภิทา
  ค. นิรุตติปฏิสัมภิทา ง. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
 
๔๐. พระสาวกรูปใด สนับสนุนการบวชภิกษุณีเป็นครั้งแรก ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระมหากัสสปะ
  ค. พระอุบาลี ง. พระอานนท์
 
๔๑. ผู้ปรารถนามีชีวิตอยู่ตลอดอายุกัป จะต้องเจริญธรรมใดให้บริบูรณ์ ?
  ก. อิทธิบาท ๔ ข. สังคหวัตถุ ๔
  ค. พรหมวิหาร ๔ ง. อธิษฐาน ๔
 
๔๒. สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง จัดเป็นเจดีย์ประเภทใด ?
  ก. ธาตุเจดีย์ ข. บริโภคเจดีย์
  ค. ธรรมเจดีย์ ง. อุทเทสิกเจดีย์
 
๔๓. ใครทูลขอว่า กุลบุตรที่จะบวชต้องได้รับอนุญาตจากมารดาบิดาก่อน ?
  ก. พระเจ้าพิมพิสาร ข. พระเจ้าอชาตศัตรู
  ค. พระเจ้าสุทโธทนะ ง. พระเจ้าโกรัพยะ
 
๔๔. ใครทูลเชิญพระศาสดาเสด็จไปกรุงบิลพัสดุ์ได้สำเร็จ ?
  ก. พระกาฬุทายี ข. พระอานนท์
  ค. พระอุบาลี ง. พระราหุล
 
๔๕. ข้อใด เป็นเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นขณะเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ ?
  ก. ฝนโปกขรพรรษตก ข. แสดงธรรมโปรดพระมารดา
  ค. ดอกไม้ทิพย์ตกจากสวรรค์ ง. แผ่นดินไหว
 
๔๖. ดอกไม้ชนิดใด ที่ตกจากสวรรค์ในวันที่พระศาสดาปรินิพพาน ?
  ก. ดอกบัวสวรรค์ ข. ดอกสาละ
  ค. ดอกอโศก ง. ดอกมณฑารพ
 
๔๗. พระสาวกรูปใด บรรลุพระอรหัตในคืนก่อนทำปฐมสังคายนา ?
  ก. พระอุบาลี ข. พระอานนท์
  ค. พระสุภัททะ ง. พระฉันนะ
 
๔๘. ใครเป็นอัครศาสนูปถัมภกในการทำทุติยสังคายนา ?
  ก. พระเจ้าอโศกมหาราช ข. พระเจ้าปเสนทิโกศล
  ค. พระเจ้ากาฬาโศกราช ง. พระเจ้าอชาตศัตรู
 
๔๙. การสังคายนาครั้งที่ ๓ ปรารภเรื่องใด ?
  ก. เรื่องวัตถุ ๑๐ ข. เดียรถีย์ปลอมบวช
  ค. ความเสื่อมถอย ง. การจ้วงจาบพระธรรมวินัย
 
๕๐. สมณะทูตที่นำพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ยังสุวรรณภูมิ คือใคร ?
  ก. พระโสณะ พระอุตตระ ข. พระธัมมรักขิตะ พระโสณะ
  ค. พระโสณะ พระรักขิตะ ง. พระมัชฌันติกะ พระอุตตระ
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๕. หน้า ๒๘๕-๒๙๖.
         

ข้อสอบสนามหลวง