ปัญหาและเฉลย
วิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. ปัญจมหาวิโลกนะที่พระมหาสัตว์ทรงพิจารณาถึง คือข้อใด ?
  ก. ทวีป ประเทศ ชนบท
สกุล มารดา
ข. กาล ประเทศ ชนบท
สกุล มารดา
  ค. แคว้น ทวีป ชนบท
สกุล มารดา
ง. กาล ทวีป ประเทศ
สกุล มารดา
 
๒. ข้อใด แสดงความเป็นผู้มีมานะของชาวชมพูทวีป ?
  ก. ถือว่าโลกเที่ยง ข. ถือว่าโลกมีที่สุด
  ค. ถือชั้นวรรณะ ง. ถือว่าตายแล้วเกิด
 
๓. ข้อใด ไม่ใช่สหชาติกับเจ้าชายสิทธัตถะ ?
  ก. พระนางยโสธรา ข. กาฬุทายีอำมาตย์
  ค. พระนางกีสาโคตมี ง. ม้ากัณฐกะ
 
๔. พระอนุชาต่างพระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ มีพระนามว่า
อะไร ?
  ก. พระอานนท์ ข. พระนันทะ
  ค. พระนันทกะ ง. พระรูปนันทา
 
๕. เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงเปล่งอาสภิวาจาในคราวใด ?
  ก. ประสูติ ข. ตรัสรู้
  ค. แสดงปฐมเทศนา ง. ปรินิพพาน
 
๖. ใครทำนายลักษณะพระมหาบุรุษเป็นคนแรก ?
  ก. อุทกดาบส ข. กบิลดาบส
  ค. อาฬารดาบส ง. อสิตดาบส
 
๗. พราหมณ์ที่ทำนายเจ้าชายสิทธัตถกุมารมีคติเป็นอย่างเดียว
คือใคร ?
  ก. รามพราหมณ์ ข. ยัญญพราหมณ์
  ค. โกณฑัญญพราหมณ์ ง. สุทัตตพราหมณ์
 
๘. พระมารดาของพระนางพิมพา มีพระนามว่าอะไร ?
  ก. พระนางปชาบดีโคตมี ข. พระนางปมิตา
  ค. พระนางกีสาโคตมี ง. พระนางอมิตา
 
๙. เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีผลอย่างไร ?
  ก. หนีออกบวชทันที ข. ตัดความทุกข์ทั้งปวง
  ค. ปรึกษากับนายฉันนะ ง. บรรเทาความเมา ๓ ประการ
เสียได้
 
๑๐. ราหุลํ ชาตํ พนฺธนํ ชาตํ” มีความหมายว่าอย่างไร ?
  ก. บ่วงเกิดแล้ว เครื่องผูก
เกิดแล้ว
ข. พระราหุลเป็นที่รัก
  ค. พระราหุลคือทรัพย์ ง. พระราหุลประสูติแล้ว
 
๑๑. ข้อใด ไม่ใช่บารมี ๑๐ ที่พระองค์ใช้ต่อสู้กับกิเลสมาร ?
  ก. ทาน ข. ศีล
  ค. สมาธิ ง. ปัญญา
 
๑๒. การบำเพ็ญทุกรกิริยาวาระที่ ๒ คือข้อใด ?
  ก. ผ่อนลมหายใจเข้าออก ข. นอนบนหนาม
  ค. เอาลิ้นกดเพดาน ง. อดอาหาร
 
๑๓. ต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้ มีชื่อเดิมว่าอะไร ?
  ก. อัสสัตถพฤกษ์ ข. ชมพูพฤกษ์
  ค. ราชพฤกษ์ ง. ชัยพฤกษ์
 
๑๔. เจดีย์ใด เรียกว่า “เจดีย์เรือนแก้ว” ?
  ก. อนิมิสเจดีย์ ข. รัตนฆรเจดีย์
  ค. รัตนจงกรมเจดีย์ ง. บริโภคเจดีย์
 
๑๕. สัปดาห์ที่ ๗ ประทับที่ต้นราชายตนะ ทรงพบกับใคร ?
  ก. พราหมณ์หุหุกชาติ ข. ตปุสสะและภัลลิกะ
  ค. พระยานาคมุจลินท์ ง. ยสกุลบุตร
 
๑๖. การปฏิบัติทางสายกลาง คือข้อใด ?
  ก. อริยสัจ ๔ ข. อินทรีย์ ๕
  ค. มรรคมีองค์ ๘ ง. สัมมัปปธาน ๔
 
๑๗. พระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุพระอรหัต เพราะฟังธรรมอะไร ?
  ก. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ข. อนัตตลักขณสูตร
  ค. อาทิตตปริยายสูตร ง. เวทนาปริคคหสูตร
 
๑๘. ยสกุลบุตรพบพระพุทธเจ้า ในพระอิริยาบถใด ?
  ก. ประทับยืน ข. เสด็จจงกรม
  ค. ประทับนั่ง ง. บรรทม
 
๑๙. คำว่า “อรหันต์” เรียกกันมาตั้งแต่เมื่อไร ?
  ก. ก่อนพุทธกาล ข. ครั้งพุทธกาล
  ค. หลังพุทธกาล ง. ครั้งทำปฐมสังคายนา
 
๒๐. พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอะไร โปรดพระเจ้าพิมพิสาร ?
  ก. อาทิตตปริยายสูตร ข. อนัตตลักขณสูตร
  ค. อนุปุพพีกถา จตุราริยสัจ ง. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
 
๒๑. ข้อใด เป็นชื่อสามุกกังสิกธรรม ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เอง?
  ก. เวทนาปริคคหสูตร ข. วิสุทธิ ๗
  ค. กถาวัตถุ ๑๐ ง. อริยสัจ ๔
 
๒๒. พระโมคคัลลานะบรรลุพระอรหัต เพราะฟังพระธรรมเทศนาอะไร ?
  ก. อาทิตตปริยายสูตร ข. อุบายในการนั่งสมาธิ
  ค. อนุปุพพีกถา จตุราริยสัจ ง. อุบายแก้ง่วง ๘ ประการ
 
๒๓. ตัณหักขยธรรม ธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา พระพุทธเจ้าตรัส
ที่ไหน ?
  ก. ถ้ำสุกรขาตา ข. ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
  ค. วัดเวฬุวัน ง. กัลลวาลมุตตคาม
 
๒๔. คำว่า “สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด
เป็นคำพูดของใคร ?
  ก. พราหมณ์หุหุกชาติ ข. ทีฆนขะ อัคคิเวสนะ
  ค. ตปุสสะ ภัลลิกะ ง. อุปกาชีวก
 
๒๕. เวทนาปริคคหสูตร คือพระสูตรว่าด้วยเรื่องอะไร ?
  ก. อุบายเครื่องบรรเทา ข. อุบายเครื่องไม่ถือมั่น
  ค. อุบายเครื่องงดเว้น ง. อุบายเครื่องสำรวม
 
๒๖. พระสารีบุตรเถระบรรลุพระอรหัตที่ไหน ?
  ก. ถ้ำสุกรขาตา ภูเขาคิชฌกูฏ ข. ถ้ำสัตตบรรณ เวภารบรรพต
  ค. ถ้ำสุกรขาตา เวภารบรรพต ง. ถ้ำสัตตบรรณ เวปุลลบรรพต
 
๒๗. พระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงสดับธรรมจากใคร เป็นครั้งแรก ?
  ก. พระพุทธเจ้า ข. พระมหากัจจายนะ
  ค. พระมหาโมคคัลลานะ ง. พระมหากัสสปะ
 
๒๘. พระมหากัจจายนะได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
  ก. แสดงธรรมไพเราะ ข. มีเสียงไพเราะ
  ค. อธิบายความย่อให้พิสดาร ง. เป็นพหูสูต
 
๒๙. พระมหากัสสปะบวชที่ไหน ?
  ก. พหุปุตตนิโครธ ข. ถ้ำสัตตบรรณคูหา
  ค. ถ้ำสุกรขาตา ง. วัดเวฬุวัน
 
๓๐. สิ่งใดเป็นมาร ท่านจงละความพอใจสิ่งนั้นเสีย” พระองค์ตรัส
แก่ใคร ?
  ก. พระวักกลิ ข. พระโสณโกฬิวิสะ
  ค. พระอานนท์ ง. พระราธะ
 
๓๑. พระสาวกรูปใด ไม่ใช่ศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ?
  ก. พระโมฆราช ข. พระปิงคิยะ
  ค. พระภัททิยะ ง. พระอุทยะ
 
๓๒. พระสาวกรูปใด เปรียบวิสุทธิ ๗ ด้วยรถ ๗ ผลัด แก่พระสารีบุตร ?
  ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระมหากัสสปะ
  ค. พระอานนท์ ง. พระปุณณมันตานีบุตร
 
๓๓. ฝนโบกขรพรรษตก ในคราวเสด็จไป ณ ที่ใด ?
  ก. กรุงราชคฤห์ ข. กรุงกบิลพัสดุ์
  ค. กรุงเวสาลี ง. กรุงเทวทหะ
 
๓๔. พระเจ้าสุทโธทนะฟังธรรมอะไร จึงบรรลุพระอรหัต ?
  ก. อนุปุพพีกถา ข. อนิจจาทิปฏิสังยุต
  ค. ธรรมปาลชาดก ง. เวสสันดรชาดก
 
๓๕. พระอนุรุทธะออกบวช ขณะพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ไหน ?
  ก. ป่าอันธวัน ข. วัดเวฬุวัน
  ค. วัดเชตวัน ง. อนุปิยนิคม
 
๓๖. พระพุทธเจ้าทรงเปรียบธรรมะใด เหมือนกระจกเงา ?
  ก. เมตตา ข. กรุณา
  ค. สมาธิ ง. ปัญญา
 
๓๗. พระอานนท์ได้บรรลุโสดาปัตติผล เพราะฟังธรรมจากใคร ?
  ก. พระพุทธเจ้า ข. พระสารีบุตร
  ค. พระปุณณมันตานีบุตร ง. พระอัสสชิ
 
๓๘. ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระปุณณมันตานีบุตร ?
  ก. พระอัญญาโกณฑัญญะ ข. พระอัสสชิ
  ค. พระมหากัสสปะ ง. พระกาฬุทายี
 
๓๙. พระสาวกรูปใดตั้งอยู่ในกถาวัตถุ ๑๐ ประการ มีมักน้อย สันโดษ
ชอบสงัด เป็นต้น ?
  ก. พระยมกะ ข. พระปุณณมันตานีบุตร
  ค. พระสารีบุตร ง. พระพากุละ
 
๔๐. ความเป็นผู้ฉลาดในภาษา เข้าใจพูดให้คนเลื่อมใส คือข้อใด ?
  ก. นิรุตติปฏิสัมภิทา ข. ธัมมปฏิสัมภิทา
  ค. อัตถปฏิสัมภิทา ง. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
 
๔๑. อะไรเป็นเครื่องห้ามความอยากอันไหลไปสู่อารมณ์ต่างๆ
และจะละได้ เพราะธรรมอะไร
” เป็นปัญหาของใคร ?
  ก. อชิตมาณพ ข. ปิงคิยมาณพ
  ค. ติสสเมตเตยยมาณพ ง. ปุณณกมาณพ
 
๔๒. ใครเป็นผู้แสดงธรรมุเทศ ๔ ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระอานนท์
  ค. พระรัฐบาล ง. พระมหากัจจายนะ
 
๔๓. อภิญญาเทสิตธรรม คือข้อใด ?
  ก. โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ข. มรรคมีองค์ ๘
  ค. โพชฌงค์ ๗ ง. อริยสัจ ๔
 
๔๔. ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือใคร ?
  ก. พระธรรมทินนาเถรี ข. พระปชาบดีโคตมีเถรี
  ค. พระเขมาเถรี ง. พระอุบลวัณณาเถรี
 
๔๕. พระเขมาเถรีได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
  ก. มีปัญญามาก ข. มีฤทธิ์มาก
  ค. ชำนาญสมาบัติ ง. มีความเพียรมาก
 
๔๖. ภิกษุณีรูปใด ได้รับยกย่องว่าเลิศทางพระวินัย ?
  ก. พระภัททากัจจานาเถรี ข. พระรูปนันทาเถรี
  ค. พระปฏาจาราเถรี ง. พระกีสาโคตมีเถรี
 
๔๗. ข้อใด เรียกว่าปฏิปุจฉาพยากรณ์ ?
  ก. ทรงย้อนถามแล้วจึง
แก้ปัญหา
ข. ทรงแยกปัญหาแก้ทีละข้อ
  ค. ทรงแก้ปัญหานั้นโดย
ส่วนเดียว
ง. ทรงระงับไม่แก้ปัญหานั้น
 
๔๘. ใครเป็นอัครศาสนูปภัมภก คราวทำตติยสังคายนา ?
  ก. พระเจ้าอชาตศัตรู ข. พระเจ้าอโศกมหาราช
  ค. พระเจ้ากาลาโศกราช ง. พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
 
๔๙. การสังคายนาครั้งใด ปรารภพวกเดียรถีย์ปลอมเข้ามาบวช ?
  ก. ครั้งที่ ๑ ข. ครั้งที่ ๒
  ค. ครั้งที่ ๓ ง. ครั้งที่ ๔
 
๕๐. สังคายนาครั้งที่ ๔ ทำที่ไหน ?
  ก. วาลุการาม ข. มหาวิหาร
  ค. อโศการาม ง. ถูปาราม
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๘. หน้า
         

ข้อสอบสนามหลวง