๑๘. อปฺปสฺสุตายํ  ปุริโส  พลิวทฺโทว  ชีรติ
มํสานิ  ตสฺส  วฑฺฒนฺติ  ปญฺา  ตสฺส  น  วฑฺฒติ.
  คนผู้สดับน้อยนี้  ย่อมแก่ไป  เหมือนวัวแก่  อ้วนแต่เนื้อ 
แต่ปัญญาไม่เจริญ.
  (พุทฺธ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๓๕.
     
๑๙. ชีวเตวาปิ  สปฺปญฺโ อปิ  วิตฺตปริกฺขยา
ปญฺาย  จ  อลาเภน วิตฺตวาปิ  น   ชีวติ.
  ถึงสิ้นทรัพย์  ผู้มีปัญญาก็เป็นอยู่ได้,  แต่อับปัญญาแม้มีทรัพย์
ก็เป็นอยู่ไม่ได้.
  (มหากปฺปินเถร)  ขุ.  เถร.  ๒๖/๓๕๐.
     
๒๐.  ปญฺวา  พุทฺธิสมฺปนฺโน วิธานวิธิโกวิโท
กาลญฺู  สมยญฺู  จ ส  ราชวสตึ  วเส.
  ผู้มีปัญญา   ถึงพร้อมด้วยความรู้   ฉลาดในวิธีจัดการงาน
รู้กาลและรู้สมัย  เขาพึงอยู่ในราชการได้.
  (พุทฺธ) ขุ.  ชา.  มหา.  ๒๘/๓๓๙.
     
๒๑.
ปญฺา  หิ  เสฏฺา  กุสลา  วทนฺติ
นกฺขตฺตราชาริว   ตารกานํ
สีลํ  สิรี  จาปิ  สตญฺจ  ธมฺโม
อนฺวายิกา  ปญฺวโต  ภวนฺติ.
  คนฉลาดกล่าวว่า  ปัญญาประเสริฐ  เหมือนพระจันทร์ประเสริฐ
กว่าดาวทั้งหลาย   แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษย่อมไปตาม
ผู้มีปัญญา.
  (สภงฺคโพธิสตฺต) ขุ.  ชา.  จตฺตาฬีส.  ๒๗/๕๔๑.
     
๒๒. มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส  เจ  วิปุลํ  สุขํ
จเช  มตฺตาสุขํ  ธีโร  สมฺปสฺสํ  วิปุลํ  สุขํ.
  ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์   เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย 
ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์  ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย.
  (พุทฺธ) [ออกสอบ ๒๕๕๔] ขุ.  ธ.  ๒๕/๕๓.
     
๒๓. ยสํ  ลทฺธาน  ทุมฺเมโธ   อนตฺถํ  จรติ  อตฺตโน
อตฺตโน  จ  ปเรสญฺจ หึสาย  ปฏิปชฺชติ.
  คนมีปัญญาทราม  ได้ยศแล้วย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
แก่ตน  ย่อมปฏิบัติเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น.
  (หตฺถาจริย) ขุ.  ชา.  เอก.  ๒๗/๔๐.
     
๒๔. ยาวเทว  อนตฺถาย ตฺตํ  พาลสฺส  ชายติ
หนฺติ  พาลสฺส  สุกฺกํสํ มุทฺธํ  อสฺส  วิปาตยํ.
  ความรู้เกิดแก่คนพาล  ก็เพียงเพื่อความฉิบหาย,  มันทำสมอง
ของเขาให้เขว,  ย่อมฆ่าส่วนที่ขาวของคนพาลเสีย.
  (พุทฺธ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๒๔.
     
๒๕. โย  จ  วสฺสสตํ  ชีเว ทุปฺปญฺโ  อสมาหิโต
เอกาหํ  ชีวิตํ  เสยฺโย ปญฺวนฺตสฺส  ฌายิโน.
  ผู้ใดมีปัญญาทราม  มีใจไม่มั่นคง  พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี, 
ส่วนผู้มีปัญญาเพ่งพินิจ  มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว  ดีกว่า.
  (พุทฺธ) ขุ.  ธ.  ๒๕/๑๙.
     
                  

ปัญญาวรรค คือ หมวดปัญญา
พุทธศาสนสุภาษิต