ปัญหาและเฉลย
วิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
คำสั่ง :
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วฝนลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
๑.
อนุพุทธประวัติ หมายถึงประวัติของใคร ?
ก.
พระพุทธเจ้า
ข.
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ค.
พระศาสดา
ง.
พระสาวก
๒.
ผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เลิศในทางนั้น ๆ ตรงกับข้อใด ?
ก.
อริยบุคคล
ข.
สาวก
ค.
เอตทัคคะ
ง.
พหุสุตะ
๓.
พระมหาสาวกที่ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะ ตามนัยพระบาลี
มีกี่องค์ ?
ก.
๔๐ องค์
ข.
๔๑ องค์
ค.
๖๐ องค์
ง.
๘๐ องค์
๔.
พระธรรมราชา หมายถึงใคร ?
ก.
พระพุทธเจ้า
ข.
พระสารีบุตร
ค.
พระภัททิยะ
ง.
พระมหากัปปินะ
๕.
พระอัญญาโกณฑัญญะ ประกาศพระศาสนาครั้งแรกที่ใด ?
ก.
พาราณสี
ข.
กบิลพัสดุ์
ค.
โทณวัตถุคาม
ง.
อุรุเวลาเสนานิคม
๖.
ใครได้รับการอุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาเป็นรูปแรก ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระยสะ
ง.
พระอัญญาโกณฑัญญะ
๗.
ผู้ได้รับยกย่องว่ามีบริวารมาก คือใคร ?
ก.
พระอุรุเวลกัสสปะ
ข.
พระยสะ
ค.
พระสารีบุตร
ง.
พระวัปปะ
๘.
พระสารีบุตร สำเร็จเป็นพระอรหันต์เพราะฟังธรรมอะไร ?
ก.
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
ข.
อนัตตลักขณสูตร
ค.
เวทนาปริคคหสูตร
ง.
สังคีติสูตร
๙.
พระธรรมเสนาบดี เป็นชื่อเรียกพระเถระรูปใด ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระราธะ
ง.
พระยสะ
๑๐.
พระสาวกรูปใด เป็นพระอุปัชฌาย์รูปแรก ให้การบวชสามเณร ?
ก.
พระมหาโมคคัลลานะ
ข.
พระอุบาลี
ค.
พระสารีบุตร
ง.
พระมหากัสสปะ
๑๑.
พระสาวกรูปใด ดูแลการก่อสร้างวัดบุพพาราม ของนางวิสาขา ?
ก.
พระโมคคัลลานะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระสารีบุตร
ง.
พระนันทะ
๑๒.
พระสาวกรูปใด บวชเป็นภิกษุด้วยวิธีรับโอวาท ๓ ข้อ ?
ก.
พระมหากัจจายนะ
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระราธะ
ง.
พระกุมารกัสสปะ
๑๓.
ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง พระพุทธเจ้าตรัสแก่ใคร ?
ก.
ยสะ
ข.
วิมละ
ค.
สุพาหุ
ง.
ปุณณชิ
๑๔.
ฆราวาสคับแคบ เป็นที่มาแห่งกิเลสธุลี เป็นคำพูดของใคร ?
ก.
อุปติสสมาณพ
ข.
โกลิตมาณพ
ค.
อชิตมาณพ
ง.
ปิปผลิมาณพ
๑๕.
พระสาวกรูปใด สามารถอธิบายพระสูตรที่ตรัสโดยย่อให้พิสดาร ?
ก.
พระสารีบุตร
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระมหากัจจายนะ
ง.
พระอานนท์
๑๖.
พิจารณาโลกนี้อย่างไร มัจจุราชจึงจักไม่แลเห็น ใครทูลถาม ?
ก.
อชิตมาณพ
ข.
โมฆราชมาณพ
ค.
ปิงคิยมาณพ
ง.
โธตกมาณพ
๑๗.
พระสาวกรูปใด ได้รับเอตทัคคะด้านทรงจีวรเศร้าหมอง ?
ก.
พระเหมกะ
ข.
พระนันทกะ
ค.
พระโมฆราช
ง.
พระอชิตะ
๑๘.
พระสีวลี เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านใด ?
ก.
มีลาภมาก
ข.
มีบริวารมาก
ค.
มีบุญมาก
ง.
มีปัญญามาก
๑๙.
พระวังคีสะ เคาะกะโหลกศีรษะของใครแล้วไม่รู้ที่เกิด ?
ก.
ปริพาชก
ข.
เทวดา
ค.
เดียรถีย์
ง.
พระอรหันต์
๒๐.
อะไรเป็นแรงจูงใจให้พระวังคีสะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ?
ก.
ฟังธรรมเกิดศรัทธา
ข.
เห็นโทษการครองเรือน
ค.
เห็นอานิสงส์การบวช
ง.
ต้องการจะเรียนมนต์
๒๑.
พรข้อสุดท้ายที่พระอานนท์ทูลขอ คือข้อใด ?
ก.
อย่าประทานจีวรอันประณีต
ข.
อย่าพาไปในที่นิมนต์
ค.
ถามข้อสงสัยได้ทุกเวลา
ง.
เมื่อไม่อยู่ในที่แสดงธรรม
ขอให้แสดงซ้ำอีกครั้ง
๒๒.
พระสาวกรูปใด ไม่มีโอกาสครองผ้ากาสาวพัสตร์ก่อนนิพพาน ?
ก.
พระปิลินทวัจฉะ
ข.
พระมหากัปปินะ
ค.
พระพาหิยทารุจีริยะ
ง.
พระอานนท์
๒๓.
พระพาหิยทารุจีริยะ ได้รับเอตทัคคะด้านใด ?
ก.
มีบริวารมาก
ข.
ตรัสรู้เร็ว
ค.
ชำนาญมโนมยิทธิ
ง.
เป็นที่รักของเทวดา
๒๔.
พระนันทเถระ ได้รับยกย่องว่าเลิศด้านใด ?
ก.
สำรวมอินทรีย์
ข.
ถือธุดงค์
ค.
เกิดในตระกูลสูง
ง.
มีปฏิภาณไหวพริบ
๒๕.
ความรักไม่มีที่สิ้นสุด เป็นความดำริเพื่อสลัดจากทุกข์ของใคร ?
ก.
พระมหากัจจายนะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระนันทะ
ง.
พระอนุรุทธะ
๒๖.
พระสาวกรูปใด เป็นเลิศด้านทิพยจักษุ ?
ก.
พระมหากัจจายนะ
ข.
พระมหากัสสปะ
ค.
พระอนุรุทธะ
ง.
พระปุณณมันตานีบุตร
๒๗.
พระสาวกรูปใด ตรึกมหาปุริสวิตก ๗ ประการ ?
ก.
พระอุบาลี
ข.
พระอานนท์
ค.
พระอนุรุทธะ
ง.
พระนันทะ
๒๘.
พระสาวกรูปใด ยอมอดข้าวตาย ถ้าไม่ได้ออกบวช ?
ก.
พระมหากัปปินะ
ข.
พระรัฐบาล
ค.
พระปิลินทวัจฉะ
ง.
พระอานนท์
๒๙.
ใครทำหน้าที่วินิจฉัยอธิกรณ์ กรณีมารดาของกุมารกัสสปะ ?
ก.
พระมหากัสสปะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระสารีบุตร
ง.
พระอุบาลี
๓๐.
พระสาวกรูปใด วิสัชนาพระวินัย ในคราวทำสังคายนาครั้งแรก ?
ก.
พระมหากัสสปะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระอุบาลี
ง.
พระอนุรุทธะ
๓๑.
พระโสณกุฏิกัณณะต้องเป็นสามเณรอยู่ถึง ๓ ปี จึงได้อุปสมบท
เพราะเหตุใด ?
ก.
พระพุทธเจ้าไม่ทรงบวชให้
ข.
สงฆ์ไม่เป็นใหญ่รับบวช
กุลบุตร
ค.
ไม่มีพระอุปัชฌาย์บวชให้
ง.
พระสงฆ์ไม่ครบ ๑๐ รูป
๓๒.
พระสาวกรูปใด เป็นยอดแห่งผู้ว่าง่ายในพระธรรมวินัย ?
ก.
พระอนุรุทธะ
ข.
พระอานนท์
ค.
พระราธะ
ง.
พระฉันนะ
๓๓.
พระราธะ ได้รับอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
ก.
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
ข.
รับไตรสรณคมน์
ค.
รับโอวาท ๓ ข้อ
ง.
ญัตติจตุตถกรรม
๓๔.
วันเกิดพระสาวกรูปใด บิดาพูดว่า บ่วงเกิดแล้ว ?
ก.
พระอานนท์
ข.
พระอุบาลี
ค.
พระราหุล
ง.
พระอัสสชิ
๓๕.
พระพุทธเจ้าทรงประทานทรัพย์อะไรแก่ราหุลกุมาร ?
ก.
ราชสมบัติ
ข.
โภคทรัพย์
ค.
ขุมทรัพย์
ง.
อริยทรัพย์
๓๖.
พระบรมศาสดา ทรงยกย่องพระราหุลว่าอย่างไร ?
ก.
เป็นผู้เลิศด้านพหูสูต
ข.
เป็นผู้เลิศด้านมีตระกูลสูง
ค.
เป็นผู้เลิศด้านใฝ่ใน
การศึกษา
ง.
เป็นผู้เลิศด้านทรงพระวินัย
๓๗.
โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม ใครกล่าว ?
ก.
พระจักขุบาล
ข.
พระรัฐบาล
ค.
พระยามิลินท์
ง.
พระเจ้าโกรัพยะ
๓๘.
เธอจะเฝ้าดูกายที่เปื่อยเน่านี้ไปทำไม ตรัสแก่พระสาวกรูปใด ?
ก.
พระนันทะ
ข.
พระวักกลิ
ค.
พระราหุล
ง.
พระอานนท์
๓๙.
พระนางรูปนันทาไม่กล้าไปฟังธรรม เพราะเหตุใด ?
ก.
ไม่มีความคุ้นเคยกับ
พระพุทธเจ้า
ข.
ไม่รู้จักทางที่จะไปยัง
เชตวันวิหาร
ค.
ละอายเพราะมีแต่ผื่นคัน
เกิดตามตัว
ง.
กลัวถูกพระพุทธเจ้าตำหนิ
ความงาม
๔๐.
โลกคือหมู่สัตว์อันอะไรปิดบังไว้ เป็นคำถามของใคร ?
ก.
อุปติสสมาณพ
ข.
โกลิตมาณพ
ค.
นันทมาณพ
ง.
อชิตมาณพ
ศาสนพิธี
๔๑.
ศาสนพิธี หมายถึงอะไร ?
ก.
คำสอนทางศาสนา
ข.
วิธีปฏิบัติทางศาสนา
ค.
วินัยทางศาสนา
ง.
ข้อบัญญัติทางศาสนา
๔๒.
การทำบุญอาหารตามฤดูกาลโดยวิธีจับสลาก เรียกว่าอะไร ?
ก.
อุเทสภัต
ข.
สลากภัต
ค.
ปักขิกภัต
ง.
สังฆภัต
๔๓.
พิธีตักบาตรเทโวโรหณะ ตรงกับวันใด ?
ก.
วันเข้าพรรษา
ข.
วันออกพรรษา
ค.
วันขึ้นปีใหม่
ง.
วันสงกรานต์
๔๔.
วันพระ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร ?
ก.
วันอุโบสถ
ข.
วันวัสสูปนายิกา
ค.
วันปาฏิบท
ง.
วันธรรมสวนะ
๔๕.
อุโบสถกรรมที่ภิกษุร่วมกันทำตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป เรียกว่าอะไร ?
ก.
สังฆอุโบสถ
ข.
ปาริสุทธิอุโบสถ
ค.
ศีลอุโบสถ
ง.
อธิษฐานอุโบสถ
๔๖.
การฟังเทศน์ จัดเป็นการบำเพ็ญกุศลอย่างหนึ่ง เรียกว่าอะไร ?
ก.
สีลมัย
ข.
ธัมมัสสวนมัย
ค.
ทานมัย
ง.
ภาวนามัย
๔๗.
การสวดพระอภิธรรม จัดเป็นศาสนพิธีหมวดใด ?
ก.
กุศลพิธี
ข.
บุญพิธี
ค.
ทานพิธี
ง.
ปกิณกะ
๔๘.
ผ้าที่พระสงฆ์พิจารณาในพิธีทำบุญทอดผ้าป่า เรียกว่าอะไร ?
ก.
ผ้าบังสุกุล
ข.
ผ้าอาบน้ำฝน
ค.
ผ้าจำนำพรรษา
ง.
ผ้ากฐิน
๔๙.
การทำสามีจิกรรม มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก.
การขอขมาโทษต่อกัน
ข.
การว่ากล่าวตักเตือนกัน
ค.
การถือนิสัยกับอาจารย์
ง.
การแสดงความบริสุทธิ์
๕๐.
วันมหาปวารณา มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก.
การขอขมาโทษต่อกัน
ข.
การว่ากล่าวตักเตือนกัน
ค.
การถือนิสัยกับอาจารย์
ง.
การแสดงความบริสุทธิ์
เอกสารอ้างอิง
เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๕๔. หน้า ๒๕๕-๒๖๕.
ข้อสอบสนามหลวง
พ.ศ. ๒๕๔๖
พ.ศ. ๒๕๔๗
พ.ศ. ๒๕๔๘
พ.ศ. ๒๕๔๙
พ.ศ. ๒๕๕๐
พ.ศ. ๒๕๕๑
พ.ศ. ๒๕๕๒
พ.ศ. ๒๕๕๓
พ.ศ. ๒๕๕๔
พ.ศ. ๒๕๕๕
พ.ศ. ๒๕๕๖
พ.ศ. ๒๕๕๗
พ.ศ. ๒๕๕๘
พ.ศ. ๒๕๕๙
พ.ศ. ๒๕๖๐
พ.ศ. ๒๕๖๑
พ.ศ. ๒๕๖๒
พ.ศ. ๒๕๖๓
พ.ศ. ๒๕๖๔
พ.ศ. ๒๕๖๕
พ.ศ. ๒๕๖๖
พ.ศ. ๒๕๖๗
พ.ศ. ๒๕๖๘
พ.ศ. ๒๕๖๙
พ.ศ. ๒๕๗๐
พ.ศ. ๒๕๗๑
พ.ศ. ๒๕๗๒
พ.ศ. ๒๕๗๓
พ.ศ. ๒๕๗๔
พ.ศ. ๒๕๗๕
พ.ศ. ๒๕๗๖
พ.ศ. ๒๕๗๗
พ.ศ. ๒๕๗๘
พ.ศ. ๒๕๗๙
พ.ศ. ๒๕๘๐
พ.ศ. ๒๕๘๑
พ.ศ. ๒๕๘๒
พ.ศ. ๒๕๘๓
พ.ศ. ๒๕๘๔
พ.ศ. ๒๕๘๕
พ.ศ. ๒๕๘๖
พ.ศ. ๒๕๘๗
พ.ศ. ๒๕๘๘
พ.ศ. ๒๕๘๙
พ.ศ. ๒๕๙๐
พ.ศ. ๒๕๙๑
พ.ศ. ๒๕๙๒
พ.ศ. ๒๕๙๓
พ.ศ. ๒๕๙๔
พ.ศ. ๒๕๙๕
พ.ศ. ๒๕๙๖
พ.ศ. ๒๕๙๗
พ.ศ. ๒๕๙๘
พ.ศ. ๒๕๙๙
พ.ศ. ๒๖๐๐