ปัญหาและเฉลย
วิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. อนุพุทธประวัติ มีความหมายตรงกับข้อใด ?
  ก. ประวัติผู้รู้ตาม ข. ประวัติผู้ปฏิบัติตาม
  ค. ประวัติผู้บวชตาม ง. ประวัติผู้ฟังตาม
 
๒. สังฆรัตนะเกิดขึ้นในโลก เมื่อทรงแสดงธรรมใด ?
  ก. อนุปุพพีกถา ข. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
  ค. อนัตตลักขณสูตร ง. อาทิตตปริยายสูตร
 
๓. ปัญจวัคคีย์ติดตามอุปัฏฐากพระมหาบุรุษ ด้วยหวังอะไร ?
  ก. หวังเป็นศาสดาเอก ข. หวังเป็นพระอรหันต์
  ค. หวังฟังเทศนาสอนตน ง. หวังมีชื่อเสียงบ้าง
 
๔. ปัญจวัคคีย์คิดอย่างไรต่อพระมหาบุรุษ จึงเลิกอุปัฏฐาก ?
  ก. กลับมาเป็นคนมักมาก ข. ทำไม่จริง
  ค. นั่นไม่ใช่ทางตรัสรู้ ง. จักกลับไปเป็นกษัตริย์
 
๕. ธรรมจักษุ ดวงตาเห็นธรรม คือข้อใด ?
  ก. ทุกสิ่งมีเหตุปัจจัย ข. ทุกสิ่งมีเกิดมีดับ
  ค. ทุกสิ่งว่างเปล่า ง. ทุกสิ่งเป็นสภาพสูญ
 
๖. ธรรมจักษุ” บังเกิดแก่พระอริยบุคคลชั้นไหน ?
  ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
  ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
 
๗. ใครบวชด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทารูปแรก ?
  ก. พระอัสสชิ ข. พระโกณฑัญญะ
  ค. พระวัปปะ ง. พระมหานามะ
 
๘. พระอริยบุคคลชั้นใด ชื่อว่า “อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว” ?
  ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
  ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
 
๙. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชบำเพ็ญพรตด้วยการบูชาไฟ ?
  ก. พระกุมารกัสสปะ ข. พระอุรุเวลกัสสปะ
  ค. พระมหากัสสปะ ง. พระมหากัปปินะ
 
๑๐. พระอุรุเวลกัสสปะประกาศว่า “ลัทธิของตนไม่มีแก่นสาร
เพราะข้าราชบริพารของพระเจ้าพิมพิสารมีอาการเช่นไร ?
  ก. ไม่อ่อนน้อม ข. ไม่ตั้งใจฟังเทศนา
  ค. คุยกันเสียงดัง ง. ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
 
๑๑. ผู้ใด เป็นตัวอย่างในเรื่องดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว ?
  ก. ตปุสสะ-ภัลลิกะ ข. อุปติสสะ-โกลิตะ
  ค. วัปปะ-ภัททิยะ ง. มหานามะ-อัสสชิ
 
๑๒. เพราะเหตุไร คนโดยมากดูมหรสพแล้วไม่เป็นเช่นนั้น ?
  ก. ญาณไม่แก่กล้า ข. ปัญญาน้อย
  ค. ไม่บำเพ็ญไตรสิกขา ง. ไม่มีบารมี
 
๑๓. อุปติสสะเลื่อมใสพระอัสสชิ เพราะเห็นอะไร ?
  ก. รูปร่างดี ข. บุคลิกภาพดี
  ค. สำรวมระวังดี ง. เทศน์ไพเราะดี
 
๑๔. ข้อใด ไม่ใช่คำพูดของพระอัสสชิ ?
  ก. เราเป็นผู้ใหม่ ข. บวชยังไม่นาน
  ค. เพิ่งมาสู่ธรรมวินัยนี้ ง. อาจแสดงธรรมโดยพิสดาร
 
๑๕. ธรรมเหล่าใดมีเหตุเป็นแดนเกิด” หมายถึงอะไร ?
  ก. ทุกข์ ข. สมุทัย
  ค. นิโรธ ง. มรรค
 
๑๖. ใครถามว่า “ในโลกนี้ คนโง่มากหรือคนฉลาดมาก” ?
  ก. สัญชัย ข. โกลิตะ
  ค. อาชีวก ง. พระเจ้าพิมพิสาร
 
๑๗. พระอัสสชิเป็นอาจารย์ของใคร ซึ่งมีชื่อเสียงในกาลต่อมา ?
  ก. พระโมคคัลลานะ ข. พระสารีบุตร
  ค. พระยสะ ง. พระมหานามะ
 
๑๘. พระธรรมเสนาบดี เป็นชื่อเรียกพระสาวกรูปใด ?
  ก. พระโกณฑัญญะ ข. พระสารีบุตร
  ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระอานนท์
 
๑๙. ใครแสดงธรรมจักรและอริยสัจได้แม้นกับพระพุทธองค์ ?
  ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระสารีบุตร
  ค. พระมหากัสสปะ ง. พระมหากัจจายนะ
 
๒๐. พระพุทธเจ้าตรัสให้ภิกษุไปลาใคร ก่อนจะจาริกไปในที่อื่น ?
  ก. พระอานนท์ ข. พระโมคคัลลานะ
  ค. พระกุมารกัสสปะ ง. พระสารีบุตร
 
๒๑. ก่อนนิพพานพระสารีบุตรไปโปรดมารดา เพราะเหตุใด ?
  ก. มารดาไม่มีศรัทธา ข. มารดามีศรัทธา
  ค. มารดานิมนต์ ง. มารดาขอบวช
 
๒๒. พระสาวกรูปใด อุปมาเหมือนมารดาผู้ให้เกิด ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคัลลานะ
  ค. พระมหากัสสปะ ง. พระมหากัจจายนะ
 
๒๓. พระพุทธเจ้าตรัสอุบายแก้ง่วง แก่พระสาวกรูปใด ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระอุบาลี
  ค. พระอานนท์ ง. พระโมคคัลลานะ
 
๒๔. คำว่า “ไม่ชูงวงเข้าไปสู่สกุล” หมายความว่าอะไร ?
  ก. ไม่ถือตัว ข. ไม่พูดมาก
  ค. ต้องสำรวม ง. ต้องเข้าไปผู้เดียว
 
๒๕. ธรรมใด ช่วยกำจัดความท้อแท้โงกง่วงได้ดีที่สุด ?
  ก. ศรัทธา ข. วิริยะ
  ค. สติ ง. สมาธิ
 
๒๖. พระมหากัสสปะออกบวช เพราะเห็นโทษในการครองเรือน
อย่างไร ?
  ก. ต้องรับผิดชอบมาก ข. ต้องคอยรับบาปคนอื่น
  ค. ต้องทำแต่บาปกรรม ง. ต้องพัวพันกับเรื่องกาม
 
๒๗. ใครบวชด้วยการรับโอวาท ๓ ข้อจากพระพุทธเจ้า ?
  ก. พระราหุล ข. พระเรวตะ
  ค. พระมหากัจจายนะ ง. พระมหากัสสปะ
 
๒๘. ใครแสดงว่า วรรณะ ๔ เสมอกันด้วยกรรมคือการกระทำ ?
  ก. พระมหากัสสปะ ข. พระมหากัจจายนะ
  ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระมหาปันถก
 
๒๙. พระสาวกรูปใด เป็นเอตทัคคะในการอธิบายความย่อให้พิสดาร ?
  ก. พระมหากัสสปะ ข. พระขทิรวนิยเรวตะ
  ค. พระมหากัจจายนะ ง. พระปุณณมันตานีบุตร
 
๓๐. ผู้ใดเคยเอาไฟเผาพื้นหอฉัน ต้องเป็นโรคเรื้อนถึง ๕๐๐ ชาติ ?
  ก. พระโมฆราช ข. พระอชิตะ
  ค. พระปิงคิยะ ง. พระเมตตคู
 
๓๑. ข้าพระองค์พิจารณาเห็นโลกอย่างไร มัจจุราชจึงจะ
ไม่แลเห็น
” ใครทูลถาม ?
  ก. พระอชิตะ ข. พระเมตเตยยะ
  ค. พระโตเทยยะ ง. พระโมฆราช
 
๓๒. ชั้นต้น พระสาวกทั้งหลายคิดอย่างไร จึงไม่ให้ราธพราหมณ์บวช ?
  ก. เพราะคนแก่มักติดในลาภ ข. เพราะคนแก่เป็นภาระผู้อื่น
  ค. เพราะคนแก่มักสอนยาก ง. เพราะคนแก่ปฏิบัติลำบาก
 
๓๓. สำนวนไทยว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” พระสาวกรูปใด
ไม่เป็นเช่นนั้น ?
  ก. พระราหุล ข. พระราธะ
  ค. พระฉันนะ ง. พระวังคีสะ
 
๓๔. พระสาวกรูปใด จำต้องบวชเพราะบาตรใบเดียว ?
  ก. พระอานนท์ ข. พระนันทะ
  ค. พระอนุรุทธะ ง. พระภัททิยะ
 
๓๕. ข้อใด ตรงกับคำว่า “พึงประพฤติธรรมให้สุจริต” มากที่สุด ?
  ก. ประพฤติตรงไปตรงมา ข. ประพฤติแต่เรื่องดี
  ค. ทำแต่บุญ ง. อบรมวิปัสสนา
 
๓๖. ข้อใด เป็นปฏิปทาของพระราหุล ?
  ก. ใคร่ต่อการศึกษา ข. มักน้อย สันโดษ
  ค. มุ่งประกาศศาสนา ง. กตัญญูกตเวทิตา
 
๓๗. พระสาวกรูปใด ได้รับเอตทัคคะด้านทรงพระวินัย ?
  ก. พระอุบาลี ข. พระนันทะ
  ค. พระอานนท์ ง. พระสิวลี
 
๓๘. พระสาวกรูปใด ได้รับเอตทัคคะด้านทิพพจักษุ ?
  ก. พระราหุล ข. พระอนุรุทธะ
  ค. พระอัสสชิ ง. พระภัททิยะ
 
๓๙. พระสาวกรูปใด เป็นเหมือนเงาที่ติดตามพระพุทธเจ้าไปทุกแห่ง ?
  ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคัลลานะ
  ค. พระอานนท์ ง. พระนันทะ
 
๔๐. พระสาวกรูปใด ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระพุทธอุปัฏฐาก ?
  ก. พระราหุล ข. พระสารีบุตร
  ค. พระอานนท์ ง. พระมหากัสสปะ
 
  ศาสนพิธี
 
๔๑. สามีจิกรรม คืออะไร ?
  ก. แสดงมุทิตาจิต ข. ทำวัตรสวดมนต์
  ค. ขอขมาโทษต่อกัน ง. เจริญจิตภาวนา
 
๔๒. วันธรรมสวนะ หมายถึงวันอะไร ?
  ก. วันสมาทานศีล ข. วันประชุมฟังธรรม
  ค. วันเข้าพรรษา ง. วันเทโวโรหณะ
 
๔๓. การทำบุญ “สตมวาร” ให้แก่ผู้ตาย ตรงกับข้อใด ?
  ก. ๗ วัน ข. ๕๐ วัน
  ค. ๑๐๐ วัน ง. ๑ ปี
 
๔๔. การสวดพระอภิธรรม นิยมใช้สวดในงานอะไร ?
  ก. งาน ๑๐๐ วัน ข. งานขึ้นบ้านใหม่
  ค. งานศพ ง. งานทำบุญอัฐิ
 
๔๕. ทักษิณานุปทาน” มีความหมายตรงกับข้อใด ?
  ก. ทำบุญวันเกิด ข. ทำบุญอายุ
  ค. ทำบุญบ้าน ง. ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย
 
๔๖. การเทศน์ตามกาลนิยม คืออย่างไร ?
  ก. เทศน์วันธรรมสวนะ ข. เทศน์สอนประชาชน
  ค. เทศน์งานศพ ง. เทศน์ปุจฉาวิสัชนา
 
๔๗. การถวายทานที่มิได้เจาะจงผู้รับ หมายถึงข้อใด ?
  ก. สังฆทาน ข. ปาฏิบุคลิกทาน
  ค. อภัยทาน ง. เภสัชทาน
 
๔๘. ผ้าวัสสิกสาฎก หมายถึงผ้าชนิดใด ?
  ก. ผ้าไตรจีวร ข. ผ้าอาบน้ำฝน
  ค. ผ้าสังฆาฏิ ง. ผ้าบังสุกุล
 
๔๙. การไหว้ครู จัดเข้าในศาสนพิธีหมวดใด ?
  ก. กุศลพิธี ข. บุญพิธี
  ค. ทานพิธี ง. ปกิณกพิธี
 
๕๐. ข้อใด ไม่ใช่อุโบสถศีล ?
  ก. ปาณาติปาตา เวรมณี ข. อทินฺนาทานา เวรมณี
  ค. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี ง. กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๙. หน้า ๒๑๖-๒๒๖.
         

ข้อสอบสนามหลวง